“ประวิตร”คิวงานแน่นลงพื้นที่ต่อเนื่อง เดินหน้าช่วยประชาชนดูแลเรื่องน้ำแล้ง-น้ำท่วม พร้อมแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินที่ดิน
เมื่อวันที่ 26 ก.พ.66 นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีควรมห่วงใยความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน โดยมีโปรแกรมลงพื้นที่พบปะประชาชนอย่างต่อเนื่อง ช่วยเหลือประชาชนทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาที่ดินทำกิน น้ำแล้ง น้ำท่วม การแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำในทุกพื้นที่ โดยมีเป้าหมายให้ประชาชนอยู่ดี กินดี มีความสุข โดยในวันจันทร์ที่ 27 ก.พ.นี้ พล.อ.ประวิตรในฐานะเป็นผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ จะลงพื้นที่ จังหวัดสตูล และจังหวัดตรัง เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้มีน้ำอุปโภคบริโภคได้ตลอดปี และแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำภาคครัวเรือน
เลขาธิการ สทนช. กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลาที่ พล.อ.ประวิตร กำกับดูแลงานด้านน้ำได้ลงพื้นที่กว่า 79 ครั้ง ใน 55 จังหวัด แบ่งเป็น ภาคเหนือ 14 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 จังหวัด ภาคกลาง 9 จังหวัด ภาคตะวันออก 4 จังหวัด ภาคตะวันตก 4 จังหวัด และภาคใต้ 11 จังหวัด ซึ่งหลายๆ โครงการเกิดประโยชน์โดยตรงจนเป็นที่พอใจต่อประชาชนและมีผลการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม เช่น การอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์ทั้งในฤดูฝนและฤดูแล้ง
เลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า นอกจากนี้ ตั้งแต่ปี 2561-ปัจจุบัน พบว่า สามารถพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพประปาหมู่บ้านได้ถึง 5,005 แห่ง พัฒนาแหล่งน้ำผิวดินสามารถเก็บกักน้ำได้เพิ่มขึ้น 1,358 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) พัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรได้ปริมาณน้ำ 154 ล้าน ลบ.ม. ประชาชนได้รับประโยชน์จากน้ำอุปโภคบริโภคและการเกษตรถึง 1.33 ล้านครัวเรือน ส่วนการแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน ในฐานะที่ พล.อ.ประวิตร กำกับดูแล สถาบันบริหารจัดการที่ดิน บจธ. ปัจจุบันมีการบริหารจัดการที่ดินร่วมกันในรูปแบบวิสาหกิจชุมชนไปแล้ว 11 กลุ่ม และสหกรณ์การเกษตร 1 กลุ่ม ใน 5 ภูมิภาค พร้อมสนับสนุนสมาชิกเกษตรกรในโครงการฯ จำนวน 482 ครัวเรือน พื้นที่ประมาณ 1,234 ไร่
“นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการให้หน่วยงานภายใต้คณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน และคณะอนุกรรมการจัดที่ดินเร่งรัดการออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยและสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาล ส่งเสริมพัฒนาอาชีพ และจัดทำระบบสาธารณุปโภคขั้นพื้นฐาน เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน”เลขาธิการ สทนช. กล่าว.
