วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 16, 2024
หน้าแรกNEWS"เรืองไกร''ร้องกกต.ตรวจสอบ 8 พรรคการเมืองเซ็นต์MOUตั้งรัฐบาลผิดกม.พรรคการเมือง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“เรืองไกร”ร้องกกต.ตรวจสอบ 8 พรรคการเมืองเซ็นต์MOUตั้งรัฐบาลผิดกม.พรรคการเมือง

“เรืองไกร” ยื่นหลักฐานเพิ่มสอบ”พิธา”ถือหุ้นไอทีวี หากกกต.ช้า รับรองผลก่อนจ่อชง ส.ส.เข้าชื่อร้องตรงต่อศาลรธน. ตรวจสอบคู่ขนาน พร้อมเปิดประเด็นตรวจสอบ 8 พรรคร่วมเซ็น MOU ตั้งรัฐบาล เข้าข่ายผิดกม.ครอบงำกันเอง เป็นเหตุให้ยุบพรรค

เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 66ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า วันนี้ตนมายื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อ กกต.ให้ตรวจสอบการถือหุ้นสื่อบริษัทไอทีวี ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่นายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย ตารางชื่อของนายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ และนายพิธา ถือหุ้นบริษัทไอทีวี ปี 2549-2566 รวมทั้ง สำเนารายชื่อผู้ถือหุ้น บมจ.ไอทีวี ปี 2549-2566 (บางส่วน) สำเนาวัตถุประสงค์ของบมจ.ไอทีวี ตารางรายได้รวมของบมจ.ไอทีวี ปี 2564-2565 สำเนารายได้รวมของปี2564-2565 (ขาดปี 2555) และสำเนาพ.ร.บ.บริษัทจำกัดมหาชน(บางส่วน) ทั้งนี้มองว่าเรื่องนี้ต้องไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญแน่นอน จึงขอให้ศาลใช้ระบบไต่สวนเพื่อเรียกพยานหลักฐานเหล่านี้มาประกอบการพิจารณาวินิจฉัยด้วย

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ หากกกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ส. แต่ยังตรวจสอบคุณสมบัติของนายพิธา ไม่แล้วเสร็จ อยากขอให้นักการเมืองที่มีสถานภาพเป็นส.ส. ร่วมกันเข้าชื่อตามกฎหมาย เสนอเรื่องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ยื่นร้องตรงไปยังศาลรัฐธรรมนูญเหมือนกรณีที่ยื่นตรวจสอบนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เพื่อตรวจสอบการถือหุ้นหจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ช่วงก่อนยุบสภา จนถึงต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้นนี่เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทำได้คู่ขนานกับกกต. และถ้านายพิธา เป็นนายกฯ แล้ว ก็จะขอให้ส.ว. 250 ใช้สิทธิยื่นร้องสอบคุณสมบัตินายกฯ ตามรัฐธรรมนูญได้เช่นเดียวกัน ยืนยันว่าข้อเสนอเป็นไปตามหลักข้อเท็จจริง ไม่มีอภินิหารหรือนิติสงครามทั้งสิ้น

เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ

นายเรืองไกร กล่าวว่า นอกจากนี้ ตนยังยื่นต่อกกต. ให้ตรวจสอบ 8 พรรคการเมืองที่ หัวหน้าพรรคร่วมกันลงนาม MOU ตั้งรัฐบาล เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นการยอมรับเงื่อนไขการทำกิจกรรมทางการเมือง เข้าข่ายผิดมาตรา 28 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมืองหรือไม่ ซึ่งห้ามพรรคการเมืองไม่ให้กระทำการที่จะให้บุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกมาครอบงำ ที่ผ่านมาทำเนียมปฏิบัติการตั้งรัฐบาลส่วนใหญ่ก็แค่จับไม้จับมือและแถลงข่าว ไม่มีการเซ็นเอกสารอะไร ฉะนั้นตนจึงย้อนไปนึกถึงลงนาม MOU สมัยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และนายนพดล ปัทมะ จะมีลักษณะต้องห้ามหรือไม่ ซึ่งเรื่องเซ็นต์ MOU นี้อาจจะนำสู่การยุบทั้ง 8 พรรค เพราะต่างฝ่ายต่างยอมรับเงื่อนไข ทั้งที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคซึ่งกันและกันเข้ามาครอบงำ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่เกี่ยวว่าจะเหตุให้ส.ว.โหวตหรือไม่โหวตให้นายพิธาเป็นนายกฯ หรือไม่

เมื่อถามว่าการร้องเรียนกรณีนายพิธา มีเจตนาเพื่อหวังผลทางการเมืองหรือไม่ นายเรืองไกร กล่าวว่า มีเหตุตรวจสอบตนก็ยื่นร้อง ไม่มีเหตุแล้วมาปั้นพยานหลักฐานเท็จนั้นไม่ใช่ การออกมาทำหน้าที่ถึงทำในฐานะนอกสภาตนก็ทำมาตลอด 10 กว่าปี เรื่องร้องเรียนกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตนร้องมากที่สุด ทั้งเรื่องการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี การถวายสัตย์ฯ และเรื่องบ้านพัก รองลงมาคือการร้องพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โดยเฉพาะเรื่องนาฬิกายืมเพื่อน ซึ่งตนได้ร้องย้ำๆ มาตลอด ถ้าวันนี้พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นรักษาการนายกฯ ไปทำผิดตนก็ร้อง หรือนายวิษณุ เครืองาม ทำผิดตนก็ร้องถ้ามีเหตุต้องร้อง

วันเดียวกันนี้ นายเรืองไกร ยังได้เข้าให้ถ้อยคำต่อ กกต.ที่เคยยื่นคำร้องให้ตรวจสอบนพ.สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี ผอ.เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย กรณีขึ้นรูปโปรไฟล์ในเฟสบุ๊กส่วนตัวเป็นรูปโลโก้พร้อมเบอร์พรรคเพื่อไทย เข้าข่ายจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนหรือเข้าข่ายหลอกหลวงให้หลงผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคหรือไม่ เข้าข่ายกระทำความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73(5) ประกอบมาตรา 56 มาตรา 132 และมาตรา 137 หรือไม่.

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img