วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 16, 2024
หน้าแรกNEWS‘ชัยธวัช’มั่นใจ‘พิธา’สู้คดีถือหุ้นไอทีวีได้ ปมขาดคุณสมบัติเซ็นรับรองส.ส.ตีความไกลไป
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘ชัยธวัช’มั่นใจ‘พิธา’สู้คดีถือหุ้นไอทีวีได้ ปมขาดคุณสมบัติเซ็นรับรองส.ส.ตีความไกลไป

ชัยธวัช” มั่นใจสู้คดีหุ้นไอทีวี ชี้ตีความไกลเกินไป ปม “พิธา” ขาดคุณสมบัติเซ็นรับรองส.ส. ปัดตอบโอน-ขายหุ้น ก่อนลงสมัคร 

เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.66 ที่พรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงคดีการถือหุ้น ITV ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกลว่า ยังคงมั่นใจจะชี้แจงและต่อสู้ในคดีได้ ตอนนี้รอแค่ กกต.ว่า จะประสานมายังนายพิธาและพรรคก้าวไกลเมื่อไหร่

เมื่อถามว่า นายสมชาย แสวงการ สว.ออกมาระบุว่า ข้อกล่าวหานายพิธาเข้าข่ายขัดกฎหมาย ใน 4 มาตรานั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นรายละเอียดที่เราก็เตรียมต่อสู้ในคดี

เมื่อถามว่า วันนี้นายคมสัน โพธิ์คง อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ก็ออกแสดงความคิดเห็นว่า ได้มีการเขียนคุณสมบัติของสมาชิกพรรค ล้อมาจากคุณสมบัติของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง เท่ากับว่าหากนายพิธาขาดคุณสมบัติ ถือหุ้นสื่อมวลชน ก็จะส่งผลกระทบต่อการรับรองส.ส.เขตและส.ส.บัญชีรายชื่อด้วย นายชัยธวัช​ กล่าวว่า น่าจะเป็นการตีความที่ไกลเกินไป ยอมรับว่า ข้อบังคับพรรคมีการเขียนคุณสมบัติไว้ตามกฎหมาย แต่วันนี้เรายังไม่ไปไกลขนาดนั้น เพราะก่อนจะไปถึงเรื่องนั้น เราต้องพิจารณาก่อนว่า นายพิธามีความผิดถือหุ้นสื่อจริงหรือไม่

เมื่อถามว่า มีกระแสว่านายพิธาขายหุ้นหรือโอนหุ้นแล้ว ก่อนลงสมัคร นายชัยธวัช​ กล่าวว่า ขอให้รอดูในรายละเอียด แต่ที่จริงเรื่องนี้ เป็นเรื่องของการตีความกฎหมายและบรรทัดฐานการวินิจฉัยมีหลายกรณีที่สามารถเทียบเคียงได้ก่อนหน้านี้หลายกรณี จึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร​

เมื่อถามว่า ตอนนี้เรายังไม่ได้ให้ความสำคัญกับคดีนี้ใช่หรือไม่ นายชัยธวัช​ กล่าวว่า ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจกับ สว. เพราะเรื่องของการถือหุ้นสื่อของนายพิธา คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก สิ่งที่จะเกิดขึ้นก่อนคือการเลือกนายกรัฐมนตรี เราจึงโฟกัสเรื่องของการประสานงานกับทาง สว.ก่อน ซึ่งตอนนี้ต้องยอมรับว่า มีความคืบหน้าไปพอสมควร กำแพงที่เคยมีระหว่างกันลดลง หลังจากได้มีการพูดคุยกันแล้ว

นายชัยธวัช กล่าวต่อถึงกรณีมีรายงานว่าการรับรอง ส.ส.ของ กกต. มีปัญหาคำร้องกว่า 20 คนว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าในส่วนของพรรคก้าวไกลเข้าข่ายหรือไม่ แต่ไม่กังวล และยังไม่ได้สอบถามไปยังพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วยกัน อย่างไรก็ตาม หาก 20 คนนี้ อยู่ในฝั่งของพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลจะมีผลต่อการโหวตเลือกนายกฯ แน่นอน ซึ่งมีการคิดล่วงหน้าไว้แล้ว หากรับรองเพียงแค่ 95% ก็จะต้องไปดูฐานของพรรคที่มาร่วมรัฐบาลว่าได้เท่าไหร่ กลางเดือนนี้น่าจะทราบผล

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่ติด หากจะมี ส.ส.พรรคอื่นที่ไม่ใช่พรรคร่วมรัฐบาลมาโหวตให้ เราจะได้ออกกับความขัดแย้งทางการเมืองในรอบ 10 กว่าปีที่ผ่านมา แต่ในส่วนของพรรค คงไม่เหมาะสมที่จะไปแสดงความคิดเห็น และคงไม่มีการไปเจรจาพูดคุยกับพรรคการเมือง ขอให้เป็นเรื่องของแต่ละพรรคตัดสินใจ หรืออาจมีการพูดคุยเป็นรายบุคคล เพราะอาจจะมีคนที่อยากจะโหวตให้ เพื่อรักษาระบบและเจตจำนงของประชาชนไว้

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าคำร้อง ส.ส.จะทำให้พรรคก้าวไกลลดจำนวนลงเป็นพรรคอันดับ 2 นายชัยธวัช​ กล่าวว่า คงไม่มีผล เพราะพรรคก้าวไกลมั่นใจว่า ที่ส.ส.ของเราชนะการเลือกตั้งมาด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม เราไม่ได้กังวลเรื่องนี้ แต่ว่าในภาพรวมต้องคิดไว้ ว่า ถ้าเกิดจำนวน ส.ส.ของซีกฝ่ายที่จะจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันลดลงในวันที่จะโหวตนายกฯ ก็คงที่จะต้องเตรียมการไว้ ว่า จะต้องใช้เสียง ส.ว.มากขึ้น

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img