วันพุธ, พฤษภาคม 22, 2024
หน้าแรกHighlight‘’บิ๊กตู่’’สั่งบริหารน้ำเขื่อนสิรินธรให้เกิดประโยชน์สูงสุด แก้น้ำท่วมซ้ำซาก
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘’บิ๊กตู่’’สั่งบริหารน้ำเขื่อนสิรินธรให้เกิดประโยชน์สูงสุด แก้น้ำท่วมซ้ำซาก

นายกฯ ตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการน้ำ และการใช้พลังงานหมุนเวียนในการผลิตไฟฟ้า โดยใช้นวัตกรรมโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดกับพลังน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เขื่อนสิรินธร กำชับบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์ที่สุด

เมื่อวันที่ 15 ต.ค.64 ที่เขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการน้ำ และการใช้พลังงานหมุนเวียนในการผลิตไฟฟ้า โดยใช้นวัตกรรม โซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดกับพลังน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

สำหรับโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนสิรินธร ถือเป็นโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก กำลังผลิต 45 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นการผลิตไฟฟ้าแบบผสมผสานระหว่าง “พลังงานแสงอาทิตย์” และ “พลังน้ำ” โดยโซลาร์เซลล์จะผลิตไฟฟ้าในช่วงกลางวัน และนำพลังน้ำมาผลิตไฟฟ้าเสริมในช่วงที่ความเข้มแสงไม่เพียงพอหรือช่วงกลางคืน ทำให้ผลิตไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน ช่วยลดความไม่แน่นอนของพลังงานหมุนเวียนที่ปกติแล้วจะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ

การออกแบบและติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนทุ่นลอยน้ำและอุปกรณ์ต่าง ๆ คำนึงถึงการรักษาสภาพแวดล้อมเป็นสำคัญจึงเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ แผงโซลาร์เซลล์ชนิดกระจกทั้งสองด้าน (Double Glass) สามารถทนความชื้นได้สูงและไม่มีสิ่งปนเปื้อนลงสู่แหล่งน้ำ ทุ่นลอยน้ำชนิด HDPE (High Density Polyethylene) ซึ่งวัสดุประเภทเดียวกับท่อส่งน้ำประปา จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสัตว์น้ำ อีกทั้งการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำในเขื่อนยังช่วยไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่เกษตรกรรม สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนได้ถึงประมาณ 47,000 ตัน/ปี หรือเทียบเท่ากับการปลูกป่า 37,600 ไร่

นายกรัฐมนตรีชื่นชมการดำเนินการโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ ช่วยส่งเสริมการใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดโลกร้อน โอกาสนี้ ยังได้สอบถามถึงศักยภาพปริมาณน้ำในเขื่อนในการรองรับปริมาณน้ำฝน กำชับเรื่องการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์ที่สุด ในส่วนของการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ขอให้แก้ไขในแต่ละจุดเพื่อลดผลกระทบบรรเทาความเดือดร้อนต่อประชาชน ยืนยันรัฐบาลพร้อมดำเนินการแก้ไขปัญหามาโดยตลอด แต่บางโครงการติดปัญหาเรื่องผลกระทบต่อชาวบ้าน ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็น เร่งสร้างความเข้าใจกับชาวบ้านต่อไป

จากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้เยี่ยมชม “เส้นทางเดินชมธรรมชาติ หรือ Nature Walkway” ซึ่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้เร่งก่อสร้างเพื่อเป็นจุดเช็คอินและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งใหม่ของ จ.อุบลราชธานี สามารถชมโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดใหญ่ที่สุดในโลกในมุมสูงอย่างใกล้ชิด ปัจจุบันอยู่ระหว่างปรับภูมิทัศน์รอบพื้นที่รวมถึงก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์สำหรับให้ข้อมูลนักท่องเที่ยวก่อนเดินชม เตรียมเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ในเดือนมกราคม 2565 คาดว่าจะช่วยเสริมให้ธุรกิจท่องเที่ยวของจังหวัดกลับมาคึกคัก ช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนอีกทางหนึ่ง

โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่ได้ดำเนินโครงการที่เป็นประโยชน์ รู้สึกดีใจกับชาวอุบลราชธานีที่มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ หวังให้เป็นแลนด์มาร์คด้านการท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดอุบลราชธานี ช่วยสร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัด พร้อมกับแนะนำให้ปลูกไม้ยืนต้นให้มีสีสันที่งดงามสร้างบรรยากาศตลอดเส้นทางการเดินชม Nature Walkway

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img