นายกฯ พร้อมภริยา นำครม.เป็นประธานพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 ส.ค. ของ’พระพันปีหลวง’
เมื่อเวลา 19.19 น. วันที่ 12 ส.ค. ที่เวทีใหญ่ท้องสนามหลวง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วย นางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานในพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 ส.ค. 2565 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมีประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรอิสระและคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ และภาคประชาชน เข้าร่วมในพิธี
เมื่อนายกรัฐมนตรีและภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรีถวายความเคารพหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา วางพุ่มทอง และพานพุ่มเงิน นายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ (เปิดกรวยกระทงดอกไม้) ก่อนจุดเทียนมหามงคล จากนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล และกล่าวนำผู้เข้าร่วมพิธีถวายพระพรชัยมงคล ความว่า
ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม เนื่องในศุภวาระแห่งวันเฉลิมพระชนมพรรษาของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ที่เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง ในวันที่ 12 สิงหาคม พุทธศักราช 2565 ข้าพระพุทธเจ้า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในนามของคณะรัฐมนตรี คู่สมรส และพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า มีความปลื้มปีติเป็นล้นพ้นที่ได้มาร่วมกันแสดงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ในวันนี้
ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายต่างประจักษ์แจ้งว่า ตลอดระยะเวลาอันยาวนานกว่า 70 ปี ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงอุทิศทุ่มเทกำลังพระวรกาย กำลังพระราชหฤทัย และกำลังพระปัญญา ปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ โดยมิได้ทรงย่อท้อต่อความเหนื่อยยาก ทรงรักและเอื้ออาทรต่อราษฎรประดุจมารดาที่รักและห่วงใยบุตร ทรงให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาพื้นฐานของประเทศที่เป็นเหตุแห่งความทุกข์ยากของราษฎร และได้ทรงพระราชดำริโครงการต่าง ๆ หลากหลายสาขา ครอบคลุมทั่วทุกด้าน ทั้งการส่งเสริมด้านการศึกษา การประกอบอาชีพ ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศิลปวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงาม ให้ดำรงอยู่เป็นเอกลักษณ์ และเป็นมรดกล้ำค่าของชาติ พระราชกรณียกิจทั้งหลายไม่เพียงแต่ส่งผลต่อการส่งเสริมคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของคนไทย โดยเฉพาะพสกนิกรผู้ยากไร้ และประชาชนในชนบทห่างไกลเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ประเทศชาติและสังคมไทย มีความเจริญมั่นคงก้าวหน้า ตราบจนถึงปัจจุบัน พระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมอันหาที่สุดมิได้ แห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเป็นที่ประจักษ์ซาบซึ้ง และได้รับการเทิดทูนไว้เหนือเศียรเกล้าของปวงข้าพระพุทธเจ้าและพสกนิกรไทยทั้งมวล
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 นี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตนำพสกนิกรทั้งหลายถวายพระพรชัยมงคล ดังต่อไปนี้
“ข้าพระพุทธเจ้า … ขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล ขออัญเชิญคุณพระศรีรัตนตรัยและอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากล ตลอดทั้งพระสยามเทวาธิราช โปรดอภิบาลและดลบันดาลประทานพรให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงพระเจริญพร้อมพิพิธพรสวัสดิ์พิพัฒนมงคล พระชนมายุยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ เปี่ยมพระพลานามัย ปราศจากโรคาพาธและภัยพาลทั้งปวง สถิตเป็นมิ่งขวัญร่มเกล้าของ
ปวงข้าพระพุทธเจ้า และเหล่าพสกนิกรตราบกาลนิรันดร์” ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
จบแล้วดนตรีบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี นายกรัฐมนตรีและภริยารับมอบโคมเทียน ผู้ร่วมพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล นายกรัฐมนตรีนำร้องเพลงสดุดีพระแม่ไทย จากนั้นนายกรัฐมนตรีกล่าวนำ “ทรงพระเจริญ” 3 ครั้ง เป็นอันเสร็จพิธี