“วิษณุ” ชี้ข้อเสนอนิรโทษกรรมไม่ทันอายุสภาชุดนี้ แจงกกต.แจ้งขอเวลา 45 วันจัดเลือกตั้ง แค่แจ้งประสานงาน ยันคุยกันตลอด ยังไร้สัญญาณยุบสภา
เมื่อวันที่ 26 ม.ค.66 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มียังการเรียกร้องให้มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง ว่าตนยังไม่เห็นข้อเสนอดังกล่าว แต่เห็นมีกระแสข่าวกะปริบกะปรอย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว เพราะเหลือเวลาอีกไม่กี่สัปดาห์ จะปิดสมัยประชุมสภาฯ จึงทำอะไรไม่ได้ นอกจากพิจารณาร่างกฎหมายเก่าที่ค้างอยู่ให้เสร็จ ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่าสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้มีความเหมาะสมในการเดินหน้าเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรมหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องที่จะพูดในช่วงปลายสมัยประชุมสภาฯ เพราะเหลือวันประชุมสภาฯ 2-3 ครั้ง ทำอะไรไม่ได้ ถ้าเสนอเข้าไป ก็บรรจุในวาระประชุมสภาฯไม่ทัน หรือจะนำมาพิจารณาก็ไม่ได้ และต่อให้นำมาพิจารณาได้ องค์ประชุมสภาฯก็ไม่ครบ แต่ถ้าเอาพูดเผื่อไว้สำหรับครั้งหน้า ก็ไม่เป็นไร ส่วนพูดแล้วจะได้ทำหรือไม่นั้น ก็แล้วแต่ว่าใครมีเสียงข้างมากหรือเสียงข้างน้อย และประชาชนคิดอย่างไร ดังนั้น ถ้าใครอยากทำเรื่องนี้ สามารถเสนอเป็นนโยบายได้ ไม่มีใครว่าอะไร
เมื่อถามว่านโยบายที่พรรคการเมืองนำเสนอ ต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อนใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า กกต.ไม่ได้ดูอะไร แต่เขาจะตามดูภายหลัง และประชาชนจะตามดูด้วยว่าสิ่งที่พูดไว้ก่อนการเลือกตั้งนั้น เมื่อพรรคนั้นได้เป็นรัฐบาลหลังจบการเลือกตั้งไปแล้ว สามารถทำได้จริงหรือไม่ เมื่อถามว่ากรณีที่มีผู้หยิบยกเรื่องดังกล่าวถือเป็นการตีปี๊บช่วงใกล้เลือกตั้ง ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่าช่วงการเลือกตั้ง ใครมีอะไรก็มักพูดกันอยู่แล้ว อยากพูดก็พูด แต่จะเป็นประโยชน์กับผู้ฟังหรือไม่นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับมายังประเทศไทย คิดว่าจะมีวิธีใดบ้างที่ทําได้ นายวิษณุ พูดติดตลกว่า “นั่งเรือบินกลับมา” ก่อนกล่าวอีกว่า จะมาด้วยวิธีไหนนั้น ตนไม่ทราบ ต้องถามนายทักษิณ เพราะเป็นคนอยากกลับมา ส่วนตนก็เป็นฝ่ายที่อยากให้เขากลับ ซึ่งจะกลับหรือไม่นั้น ก็อยู่ที่นายทักษิณ
เมื่อถามว่าหากนายทักษิณกลับมาแล้ว ตามกระบวนการต้องทำอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า เมื่อเขากลับมา ก็ต้องเข้ากระบวนการยุติธรรม ส่วนจะเป็นผลดีหรือผลเสียอย่างไรนั้น เขาต้องมีการประเมินชั่งน้ำหนักเอาเอง ต่อข้อถามว่านายทักษิณไม่สามารถกลับมาโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่ากระบวนการยุติธรรมรออยู่ เมื่อถามอีกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถไปรอจับกุมนายทักษิณที่สนามบินได้เลยใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่าได้ เจ้าหน้าที่มีวิธีปฏิบัติของเขา อย่าให้ออกจากปากตนเลยว่าต้องทำอย่างไร มิฉะนั้นจะมีการกล่าวหาว่าตนวางแผนคิดร้ายอะไรกับเขา อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องธรรมดา ต่อให้นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส เดินทางกลับมาก็ต้องทําแบบนั้นเช่นกัน
นายวิษณุยังกล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่าต้องมีเวลาจัดการเลือกตั้ง 45 วัน หลังการประกาศบังคับใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ประกาศใช้ จึงจะยุบสภาได้ ว่า ได้มีการติดต่อและเตือนกันอยู่ โดยเลขาธิการกกต.แจ้งว่าจะกำหนดวันเลือกตั้งต่อเมื่อ 1.รอให้มีการโปรดเกล้าฯ กฎหมาย 2 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งออกมาก่อน 2.สภาผู้แทนราษฎรจะสิ้นสุดด้วยเหตุใด ระหว่างยุบสภาหรืออยู่จนครบวาระ เพราะมีตัวแปรที่แตกต่างกัน
3.กกต.กำหนดจัดการแบ่งเขตการเลือกตั้งใหม่ จาก 350 เขต เป็น 400 เขต รวมถึงจำนวนประชากรมีเพิ่มและลดในบางจังหวัด โดยขณะนี้กกต.รับฟังความคิดเห็นเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง เมื่อทำเสร็จแล้ว กกต.ต้องส่งให้แต่ละจังหวัดดูและให้ความคิดเห็นว่าในทางปฏิบัติสามารถทำได้หรือไม่ เป็นปัญหาหรือไม่ จากนั้นจึงจะส่งให้พรรคการเมืองพิจารณา ดังนั้นกกต.ได้ส่งคำเตือนควบคู่กับขอร้องว่าถ้ารัฐบาลจะตัดสินใจอย่างไร ต้องแจ้งให้กกต.ทราบล่วงหน้าเพื่อจะได้เร่งรัดบางเรื่องได้ ซึ่งรัฐบาลกับกกต.ประสานกันอยู่แล้ว แต่ตอนนี้กฎหมายลูกที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งยังไม่ลงมา และรัฐบาลยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะยุบสภาหรืออยู่จนครบวาระ
เมื่อถามว่าการที่กกต.พูดอย่างนี้ เป็นการดักคอไม่ให้ยุบสภาหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่าอย่าเรียกว่าดักคอเลย แต่เป็นการประสานแจ้ง เพราะถ้ากกต.ไม่พูด เราก็ไม่รู้ จะเกิดความลักลั่น ฉะนั้นเมื่อมีการพูดคุยกัน การเลือกตั้งจะไม่มีปัญหา เพราะเราได้นัดกันแล้วว่าเมื่อกฎหมายลูกลงมาเมื่อไหร่ กกต.และตนจะพูดคุยกัน ต่อข้อถามว่า ตอนนี้นายกรัฐมนตรีมีสัญญาณว่าจะยุบสภาแล้วหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ไม่มีหรอก จะมีหรือไม่มี ต้องถามท่านนายกฯ เพราะผมไม่รู้
