นายกฯ ย้ำทุกคนที่ฉีดวัคซีนเป็นไปตามเกณฑ์ของแพทย์ ไม่มีวีไอพี เตรียมขยายไปให้กับประชาชนในพื้นที่การท่องเที่ยว โวเงินสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูงไม่ได้ถังแตก
เมื่อวันที่ 6 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวในรายการ “PM PODCAST นายกรัฐมนตรีเล่าเรื่อง” ว่า สำหรับเรื่องวัคซีนโควิด-19 นั้นเป็นที่น่ายินดีที่วัคซีนซิโนแวคล็อตแรก 2 แสนโดสมาถึงไทยแล้ว โดยเราเป็นประเทศแรกที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคจากจีนในเชิงพานิชย์ ไม่ใช่การบริจาค แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างไทยกับจีนที่ช่วยเหลือดูแลกันมาโดยตลอด
ทั้งนี้ได้เริ่มฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว และการจายไปยังหน่วยบริการเป้าหมาย 13 จังหวัดประมาณ 116,000 โดส โดยทยอยฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์แล้วกว่า 3 พันคน ซึ่งในกลุ่มนี้พบมีอาการข้างเคียงหลังฉีดเล็กน้อยก็ถือว่าค่อนข้างดี ทั้งนี้สำหรับการจัดหาวัคซีนในระยะต่อไปคือวัคซีนแอสต้าเซเนก้า ที่จองไปแล้ว 26 ล้านโดส และครม.ได้อนุมัติงบประมาณกวา 6,300 ล้านบาท เพื่อจัดหาเพิ่มอีก 35 ล้านโดส เป็น 61 ล้านโดส ให้ครอบคลุมคนไทยอย่างน้อยครึ่งหนึ่งภายในปี 2564
ส่วนภาคเอกชนที่ต้องการนำเข้าวัคซีนนั้นกระทรวงสาธารณสุขและรัฐบาล ไม่ปิดกั้นแต่ต้องขอขึ้นทะเบียนนำเข้าวัคซีนกับ อย. เพราะเป็นวัคซีนที่อนุญาตให้ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น ซึ่งตอนนี้มีผู้ยื่นขอขึ้นทะเบียนแล้ว 4 ราย คือ 1.บริษัทแอสต้าเซเนก้า 2.องค์กรเภสัชกรรม 3.บริษัทแจนเซ่น ซีแลคจำกัด และ 4.บริษัท ไบโอ จีนีเทค จำกัด
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงประเด็นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการฉีดวัคซีนให้กับวีไอพีที่ไม่ได้อยู่ในเงื่อนไข ที่ จ.เชียงใหม่นั้น ขอยืนยันว่าไม่มีใครเป็นวีไอพี ทุกคนที่ฉีดเป็นไปตามเกณฑ์ของทีมแพทย์ และเป็นกลุ่มที่ระบุให้มาฉีดตามนัด โดยเป็นกลุ่มของเจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่มีโอกาสสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ อาทิ ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ประธานสื่อมวลชน นายกสมาคมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว สมาคมอสม.เชียงใหม่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น ทั้งนี้ขอให้ทุกคนสบายใจได้ เมื่อมีวัคซีนล็อต 2 และ 3 เข้ามาอีกก็จะมีการขยายไปให้กับประชาชนกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่การท่องเที่ยว
“โดยสรุปวัคซีนที่รัฐบาลจัดหามานั้นจะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นไปตามลำดับ ควบคู่กับมาตรการควบคุมโรคของทีมแพทย์ ที่ทำให้ตอนนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศน้อยลงมากถือว่าคลี่คลายลงเป็นลำดับ รวมถึงการดูแลเศรษฐกิจและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้กลับมาทำมาหากินได้โดยเร็ว โดยผมมีแผนที่จะออกไปเยี่ยมเยือนประชาชนบ่อยๆ หลังจากสถานการณ์ทุกอย่างดีขึ้น เพื่อจะได้ดูแลช่วยเหลือได้อย่างตรงจุด”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนที่หลายคนเป็นห่วงเรื่องปัญหาเศรษฐกิจนั้น ไม่ใช่แค่ประเทศไทยแต่ทั่วโลกได้รับผลกระทบทั้งหมดซึ่งสาเหตุสำคัญก็มาจากโควิด แต่ในส่วนของประเทศไทยก็มีข่าวดีว่าบริษัท S&P moody’s และ Fitch ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับเครดิตแนวหน้าของโลก ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือของเรา จากการที่มีเงินสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง เสถียรภาพและวินัยทางการคลังอยูในเกณฑ์ดี ฐานะการคลังของประเทศไม่ได้ถังแตก ระดับเงินคงคลังปลายปี 2563 อยู่ที่ 473,000 ล้านบาท มากกว่าปีงบประมาณก่อน 49.5% หลังจากนี้กระทรวงการคลังก็คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะเริ่มขยายดีขึ้น จากการได้รับวัคซีน และมาตรการทางเศรษฐกิจต่างๆ
ทั้งนี้สำหรับการระบาดระรอกใหม่ในปี 2564 รัฐบาลได้ออกมาตรการเศรษฐกิจ เพื่อรองรับการระบาดระรอกใหม่ ทั้งมาตการเยียวยาโครงการเราชนะ ที่ใช้จ่ายหมุมเวียนสะสม 69,000 ล้านบาท โครงการเรารักกัน มาตรการลดค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ต มาตรการทางภาษี ขยายเวลายื่นแบบและจ่ายภาษีปี 63 ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มาตรการช่วยเหลือด้านสภาพคล่อง ธนาคาร ธ.ก.ส. สินเชื่อพอเพียงเพื่อเลี้ยงชีพ สินเชื่อระยะสิ้นฤดูการผลิตใหม่ เป็นต้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในเรื่องการปรับ ครม.ตนได้หารือกับพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว และเป็นหน้าที่นายกฯ ที่จะต้องพิจารณาครั้งสุดท้ายตามรายชื่อที่เสนอขึ้นมา ซึ่งคาดว่าจะชัดเจนภายในเดือน มี.ค. อย่างเร็วที่สุด แต่ในระหว่างนี้รัฐบาลยังทำงานได้ตามปกติ อย่างไรก็ตามอยากฝากเรื่องความรักและความมีสามัคคี มีจิตสำนึก มีความรับผิดชอบ เผื่อแผ่แบ่งปัน เราเคยมีสิ่งเหล่านี้มาเป็นเวลายาวนาน เราต้องรัก สามัคคี ไม่แตกแยกกัน และเคารพกฎหมาย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่จะทำให้ความขัดแย้งไม่ขยายตัวต่อไป
