วันอาทิตย์, พฤษภาคม 26, 2024
หน้าแรกNEWS“ผู้นำฝ่ายค้านคนใหม่”วางหมากลุยตรวจสอบรัฐบาลยาวไปสมัยประชุมหน้า
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ผู้นำฝ่ายค้านคนใหม่”วางหมากลุยตรวจสอบรัฐบาลยาวไปสมัยประชุมหน้า

“ผู้นำฝ่ายค้าน” วางภารกิจลุยตรวจสอบรัฐบาลลากยาวยันสมัยประชุมหน้า ขู่เจอซักฟอกใหญ่แน่ จับมือถาคปชช.แก้ม.272 ตัดอำนาจส.ว. ปัดตีรวนองค์ประชุม ย้ำเสียงข้างมากต้องพร้อมรักษาด้วย ยันฝ่ายค้านอันไหนเอื้อปย.ประเทศยินดีหนุน

วันที่ 19 ม.ค. 65 เวลา 08.45 น. ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังเข้าพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้า
โปรดกระหม่อมแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านฯว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันสูงยิ่งที่ได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้งตนเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งหน้าที่ที่สำคัญที่สุดคือการตรวจสอบ ถ่วงดุลรัฐบาล และคณะรัฐมนตรี ทำงานเพื่อชาติและประชาชนให้เกิดประโยชน์สูงสุด สำหรับภารกิจแรกของฝ่ายค้าน ยังอยู่ในช่วงสมัยประชุมนี้ คือการแก้ไขปัญหาปากท้อง ความเป็นอยู่ ที่ประชาชนประสบปัญหา ข้าวของแพง ลูกหลานมองอนาคตไม่เห็น โดยเราจะเสนอแนะปัญหาให้กับรัฐบาลนำไปแก้ไข โดยเฉพาะเรื่องของแพงทั้งแผ่นดิน พรรคร่วมฝ่ายค้านก็จะมีการยื่นญัตติร่วมกันเพื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 และพรรคร่วมฝ่ายค้านก็จะมีการประชุมกันในวันนี้ (19 ม.ค.) เพื่อหาข้อสรุปในประเด็นที่จะอภิปราย และจะยื่นต่อประธานสภาฯในวันที่ 21 ม.ค.นี้ หรืออย่างช้าที่สุดไม่เกินวันที่ 24ม.ค. เพื่อบรรจุเข้าสู่การพิจารณา คาดว่าจะมีการอภิปรายในช่วงกลางเดือนก.พ.นี้ ถ้ารัฐบาลไม่ติดขัดหรือไม่ดึงยืดเวลาจนเกินไป

ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวต่อว่า แต่ก่อนที่จะมีการยื่นญัตติ เนื่องจากเรื่องของความเดือดร้อนของประชาชนมันรุมเร้ามาก ในวันพรุ่งนี้ (20 ม.ค.) ฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย จะใช้กลไกของสภาฯตั้งกระทู้ถามสด ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะเรื่องของโรคระบาดอหิวาต์แอฟริกาในสุกร หรือ ASF ที่ส่งผลกระทบทำให้ข้าวของแพง รวมทั้งจะมีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาที่ให้สภาฯได้ร่วมกันพิจารณาถึงที่มาที่ไปของโรคASF รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา เพื่อให้ฝ่ายรัฐบาลรับไปพิจารณาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน นอกจากนี้ในเรื่องของการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ที่คาดว่าจะเสนอเข้าสู่สภาฯพิจารณาได้ในช่วงสมัยประชุมนี้เช่นกัน

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า สำหรับวาระการประชุมสภาฯในวันนี้ (19 ม.ค.) มีกฎหมายสำคัญ 2 ฉบับ ที่รัฐบาลประกาศใช้แล้ว และนำเข้ามาขออนุมัติหรือขอความเห็นชอบจากสภาฯ และวุฒิสภาตามลำดับไป โดยเฉพาะการพิจารณาพ.ร.ก.(แก้ไขเพิ่มเติม)ว่าด้วยสารต้องห้ามทางการกีฬา เรื่องนี้มีความจำเป็นและสำคัญมาก เพราะเราเสียเกียรติภูมิจากเรื่องนี้มาก เพราะถูกองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก หรือ WADA สั่งแบน 3 เรื่อง 1.ห้ามจัดการแข่งขันระดับนานาชาติ 2.ห้ามใช้ธงสัญลักษณ์ของไทยในการแข่งขัน และ 3.ห้ามเป็นกรรมการแข่งขันระดับนานาชาติ เราก็จะพิจารณาว่าพ.ร.ก.ที่แก้ไขเพิ่มเติมนี้ เป็นไปตามที่ WADA กำหนดหรือไม่ ถ้าไม่เราอาจจะไม่ให้ผ่าน เนื่องจากขณะนี้ WADA ยังไม่ปลดล็อคให้ไทย

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ขณะที่ในสมัยประชุมหน้าคือปีที่ 4 สมัยที่ 1 ในวันที่ 22 พ.ค.เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 19 ก.ย. เราจะร่วมกับภาคประชาชนในการรณรงค์เข้าชื่อเพื่อยื่นแก้ไขบทบัญญัติมาตรา 272 ว่าด้วยอำนาจของสมาชิกวุฒิสภาในการที่จะมาลงคะแนนเสียงเลือกนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ภาคประชาชนกำลังรณรงค์เข้าชื่อเสนอกฎหมายกันอยู่ ซึ่งพรรคเพื่อไทยพร้อมสนับสนุนร่วมรณรงค์เข้าชื่อด้วยและจะเป็นเสนอกฎหมายประกบไปด้วย

“ในสมัยประชุมหน้า ถ้ารัฐบาลชุดนี้ยังทำหน้าที่อยู่ การอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 จะเกิดขึ้นแน่นอน เพราะเป็นประเด็นปัญหาสำหรับพี่น้องประชาชน นี่คือเรื่องใหญ่ในปีนี้ที่ทางพรรคร่วมฝ่ายค้านจะต้องดำเนินการ ในฐานะที่เป็นผู้นำฝ่ายค้านก็จะไปทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและพี่น้องประชาชนให้มากที่สุดโดยเฉพาะเรื่องของประชาธิปไตยที่แท้จริง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง” นพ.ชลน่าน กล่าว

เมื่อถามว่าการประชุมสภาฯในสัปดาห์ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลต้องกักตัวจำนวนมาก จึงมีความกังวลว่าองค์ประชุมอาจไม่ครบ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก เราก็จะพิจารณาว่าเรื่องที่จะผ่านสภาเป็นประโยชน์หรอืไม่ ถ้าไม่เป็นประโยชน์จริง เราอาจไม่ยอม ต้องดูที่สาระบัญญัติเป็นหลัก

เมื่อถามต่อว่าฝ่ายค้านจะขอตรวจสอบองค์ประชุมสภาฯหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หลักการของฝ่ายค้านแต่แรกยึดว่าจะตรวจสอบเสียงข้างมากอย่างเข้มข้น เพราะถึงอย่างไรเสียงข้างมากก็ต้องทำหน้าที่ให้ถึงพร้อม ความหมายคือต้องเตรียมองค์ประชุมให้เกินกึ่งหนึ่งอยู่ตลอดเวลา ยืนยันว่าพวกเราไม่ได้ตีรวน แต่เวลาพิจารณาเรื่องสำคัญหรือกฎหมายสำคัญ เสียงข้างมากต้องมีความพร้อมครบในองค์ประชุมนั้นด้วย ยกเว้นบางเรื่องที่เราเห็นว่าเป็นประโยชน์จริงๆ ถ้าเราไม่เป็นองค์ประชุมแล้วเรื่องนั้นผ่านไปไม่ได้หรือประเทศเสียหาย เราก็จะทำหน้าที่ของเรา

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img