วันอาทิตย์, พฤษภาคม 12, 2024
หน้าแรกHighlight“สุเทพ”เอาใจช่วย‘หนักหน่อยแต่ต้องสู้’ ห่วงเสียงหนุน“บิ๊กตู่”ศึกซักฟอก พ.ค.นี้
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“สุเทพ”เอาใจช่วย‘หนักหน่อยแต่ต้องสู้’ ห่วงเสียงหนุน“บิ๊กตู่”ศึกซักฟอก พ.ค.นี้

“สุเทพ” ห่วง “ลุงตู่” บอกสู้ๆ ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แนะปรับวิกฤตให้เป็นโอกาส เร่งทำผลงานให้ประชาชนได้เห็น

เมื่อวันที่ 3 มี.ค.65 เฟซบุ๊ก “Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)” ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) ได้เผยแพร่รายการ “คุยกับลุง” EP 20

โดย นายสุเทพ กล่าวว่า ช่วงนี้รัฐสภาปิดสมัยประชุมแล้ว แต่คณะกรรมาธิการฯ ก็จะต้องทำงานอยู่ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง และพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ที่จะทำให้เสร็จภายในเดือน พ.ค.เสร็จทันหรือไม่ ก็จะมีผลต่อสถานการณ์ในทางการเมืองในเดือน พ.ค.มากที่เดียว

ปัญหาที่กำลังรุมเร้าประเทศไทยในเวลานี้ มีเรื่องใหญ่ 2 เรื่อง เรื่องแรกคือเรื่องโควิด เรื่องที่ 2 คือเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องโควิดนั้น เชื่อมั่นว่ารัฐบาลไทย มีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาติดต่อกันมา 2-3 ปีแล้ว ประชาชนคนก็ร่วมมือกันดี ถ้าไปดูตัวเลขเปรียบเทียบประเทศไทย มีประชากร 66 ล้านคนเศษ วันนี้มีตัวเลขคนติดโควิดประมาณ 2 หมื่นกว่าคนต่อวัน ถ้าไปเปรียบเทียบกับฮ่องกง ที่มีประชาชนประมาณ 7 ล้านกว่าคน แต่มีคนติดโควิดเพิ่มขึ้นวันละ 3 หมื่นกว่าคน ก็ถือว่าสถานการณ์ของประเทศไทยไม่น่าจะหนักหนาสาหัส

ปัญหาใหญ่คือเรื่องเศรษฐกิจ การลงทุนของประเทศ การท่องเที่ยว ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจเห็นนายกฯประกาศเป็นนโยบายว่าจะให้วีซ่าระยะยาว สำหรับนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยในระยะนี้ ตนยังคิดเลยไปว่ายังมีคนที่มีเงิน มีทอง ถ้ารัฐบาลให้สิ่งจูงใจ บอกว่าใครที่เอาเงินมาลงทุน ในเศรษฐกิจ BCG เศรษฐกิจชีวภาพ  เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว โดยเฉพาะทางด้านเกษตร การผลิตอาหารปลอดภัย รัฐบาลให้สัญชาติไทยเลย อย่างนี้น่าจะเป็นแรงจูงใจ ให้คนเอาเงินออกมาลงทุนสร้างงานมากขึ้น ก็จะเป็นผลดีต่อผู้ใช้แรงงานในประเทศไทยต่อไปในวันข้างหน้า

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ปัญหาใหญ่ของพล.อ.ประยุทธ์ ในขณะนี้คือ เรื่องการเมือง การเมืองภายในพรรครัฐบาลเอง การเมืองระหว่างพรรค การเมืองจากนอกพรรค ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่น่าหนักใจ เดือนพ.ค.นี้จะอภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ เอากันอย่างจริงจัง จะล้มรัฐบาลให้ได้ คนก็จิตใจตุ๊มๆ ต่อมๆ ไม่รู้ว่ารัฐบาลจะไปรอดหรือไม่รอด จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ การลงมติไม่ไว้วางใจ จริงๆ แล้ว ไม่ห่วงว่าพล.อ.ประยุทธ์จะมีจุดอ่อนอะไรให้โจมตีมากมาย

แต่ที่เป็นห่วงคือ เรื่องจำนวนส.ส. ใครบ้างที่ยังคงยืนหยัดที่จะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ อย่างร.อ.ธรรมนัสก็ออกมาประกาศว่า 18 คน ที่ออกจากพรรคพลังประชารัฐไปนั้น จะไม่ยกมือสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จะยกมือสวน กล่าวได้ว่านี่เป็นส.ส.อีกกลุ่มที่อยู่ฝ่ายที่จะจ้องล้มรัฐบาล จำนวนมือของส.ส.ที่จะยกมือสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ในวันที่มีการลงคะแนนเสียงไว้วางใจ หรือไม่ไว้วางใจ ตอนนี้ยังสับสนอยู่ บางฝ่ายคำนวณว่า จะมี ส.ส.สนับสนุนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ประมาณ 260 คน ร.อ.ธรรมนัสก็บอกว่า จริงรึเปล่า อันนี้ก็ไม่รู้ อยู่ที่ทีมงานของพล.อ.ประยุทธ์ ก็ต้องใช้วิชาเลขคณิต นับจำนวนความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของส.ส.รายวันเลยทีเดียว

เห็นใจพล.อ.ประยุทธ์ สถานการณ์ที่รุมเร้าอย่างนี้ ใครเป็นพล.อ.ประยุทธ์ก็น่ากลุ้มใจ แต่ว่าต้องสู้ เป็นเรื่องที่ต้องพาประเทศไปให้ได้ การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลในช่วงนี้ไม่เป็นผลดีต่อประเทศไทย ผมก็เอาใจช่วย เหมือนพี่น้องประชาชนคนไทยที่ต้องเอาใจช่วย

พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วงปิดสมัยประชุมนี้ พล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องทุ่มเท เอามาตรการต่างๆ โครงการต่างๆ ออกมาช่วยประชาชน ประเทศชาติ ให้เห็นประจักษ์ เพราะฉะนั้นพอถึงจังหวะที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามที่เขาประกาศ พล.อ.ประยุทธ์ก็อาจจะพลิกโอกาส ใช้โอกาสนี้ อธิบายว่ารัฐบาลได้ทำสิ่งดีๆ ให้กับประเทศและประชาชนไว้อย่างไรบ้าง ผมเชื่อว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ใช้โอกาสอย่างนี้ ประชาชนจะเข้าใจและเอาใจช่วย เหมือนที่ผมเอาใจช่วย ในขณะนี้ สู้ๆ นะครับท่านนายกฯ หนักหน่อย แต่ก็ต้องสู้ และต้องสู้ให้ชนะนะครับท่านนายกฯ

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img