ลุ้นตั้ง“บอร์ดแจกเงินดิจิทัล” ล้อมคอกล็อกเป้าการเมือง!!

ยังไม่สรุป!! ยังไม่ชัดเจน!! กับ นโยบายแจกเงินดิจิทัล วอลเลต 10,000 บาท ให้กับคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป 56 ล้านคน ด้วยเงินมหาศาล 5.6 แสนล้านบาท

ด้วยเพราะ…เป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ใช้เงินจำนวนมาก จำเป็นอย่างยบิ่งที่ต้องทำให้รอบคอบ ให้ละเอียดถี่ถ้วน ให้ถูกต้องตามกฎหมาย

หากผิดพลาด แม้เพียงจุดเล็กน้อย รัฐบาลอาจตกเก้าอี้ จนกลายเป็น “เป้าสำคัญ” ทางการเมือง จากโครงการนี้ก็เป็นไปได้!!

ขณะเดียวกันจากเป้าหมายที่ไม่ต้องการแจกผ่านแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ที่บริหารจัดการโดย ธนาคารกรุงไทย แต่หากต้องการทำให้เกิด “ซูเปอร์แอพฯ” ของรัฐบาลที่ชัดเจน

โดยไม่ว่าจะเป็นโครงการไหน ที่เป็นสวัสดิการของรัฐ ของรัฐบาล ก็ควรรวบรวมไว้ในแอพฯเดียว เพื่อให้ง่ายให้สะดวกกับประชาชน เหมือนการใช้เลข 13 หลักของคนไทยนั่นแหล่ะ

ด้วยเหตุผลสำคัญเช่นนี้!! ดังนั้นกระบวนการทำงานจึงต้องเปลี่ยนไป การบริหารจัดการระบบนั้นต้องมีความรอบคอบ ชัดเจน ถูกต้องตามกฎหมาย

ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวออกมาประปราย ในเรื่องของ “คนกลาง” ที่จะเข้ามาบริหารจัดการ ระบบบล็อกเชน หากไม่ทำผ่านแอพฯเป๋าตัง ที่มีธนาคารกรุงไทย เป็นแบ็กอัพ

เพียงแค่นี้ สังคมไทยก็ถามหาความชอบธรรม ด้วยสารพัดคำถาม? แล้ว!! จะใช้ใคร? แล้วผู้บริหารจัดการระบบ จะได้รับผลประโยชน์มากน้อยเพียงใด? มีเอี่ยวกับใคร? หรือไม่? อย่างไร?

ทำเอาเอกชน ที่ถูกอ้างถึง ถูกระบุถึง ต้องออกมาชี้แจงในรายละเอียด ไม่มีความเกี่ยวข้อง ไม่มีเอี่ยวในทุกกรณี!!
ดังนั้น… เพื่อให้ทุกอย่างตอบคำถามที่ “คาใจ” สังคมให้ได้ การดำเนินการในเรื่องของการแจกเงินดิจิทัล วอลเลต

ครั้งนี้ จึงต้องปรับทัพ ปรับรูปแบบ โดยดำเนินการในลักษณะของ “คณะกรรมการ” ดิจิทัลวอลเล็ต

ทั้งนี้ทั้งนั้น… คณะกรรมการชุดนี้ก็ต้องมี “เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯและรมว.คลัง เป็นประธาน โดยมีหน่วยงาน ทั้งแบงก์ชาติ สภาพัฒน์ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา รวมถึงบรรดาปลัดกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย

แต่เป้าหมายของโครงการยังไม่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะกำหนดเวลาในการใช้เงินยังเหมือนเดิมคือ…ภายในเดือนก.พ.67 หรือภายในไตรมาสแรก ปีหน้า

ส่วนในรายละเอียด อาจต้องเปลี่ยนแปลงไปบ้าง เพื่อความเหมาะสมตามสภาพความเป็นจริง โดยเฉพาะในเรื่องของการใช้เงินภายใน 4 กิโลเมตรในภูมิลำเนาของตัวเองอาจต้องเปลี่ยนไป ซึ่งก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็นเพียงแค่อำเภอ หรือทั้งจังหวัด

แม้คณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดนี้ ยังไม่ได้รับการพิจารณาจากครม.ก็ตาม แต่เชื่อว่าภายในสัปดาห์หน้า การจัดตั้งคณะกรรมการคงเรียบร้อย ขณะที่การให้ข่าวความคืบหน้าของโครงการก็จะมีผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง เพื่อให้ทุกอย่างไม่เกิดความสับสน

เพราะ…อย่าลืมว่าโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเลต นี้ถือเป็นโครงการ “เรือธง” สำคัญของ พรรคเพื่อไทย และประชาชนคนไทยทั้งประเทศต่างรอคอย เงินแจก 10,000 บาท

ส่วนในเรื่องของเงินงบประมาณจะนำมาจากไหน แม้ความชัดเจนในเวลานี้ยังไม่มีออกมา ด้วยเพราะเงินงบประมาณของรัฐนั้นมีอยู่อย่างจำกัด และรัฐบาลชุดนี้ก็เป็นรัฐบาลผสมที่มีพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด 11 พรรค

การจัดสรรเงินงบประมาณ จึงไม่ใช่เรื่องง่าย!! แม้มีการเพิ่มวงเงินรายจ่ายงบประมาณ ปี 67 อีก 1.3 แสนล้านบาท มาแล้วก็ตาม แต่ดูจำนวนเงินก็ไม่เพียงพอที่จะใช้ในโครงการนี้

การจะหยิบยืม หรือกู้ยืมเงินจากแบงก์ของรัฐ อย่าง ธนาคารออมสิน ตามวิถีทางที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะการขยายกรอบการใช้เงินตามมาตรา 28 แห่งพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ จากปัจจุบัน 32% เป็น 45%

ขณะเดียวกันยังกำหนดให้กลับมาใช้สัดส่วนเดิมในปี 70 ก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะถือเป็นวิถีทางเดียวที่น่าจะทำให้โครงการนี้เดินหน้าต่อไปได้โดย “ไม่ถูกสอย” จาก “ฝ่ายตรงข้าม”

ขณะเดียวกันเรื่องของ “วิธีใช้” ก็สำคัญไม่น้อย หากเป็นเพียงแค่ “คนใช้เงิน” ก็ไม่มีปัญหา แต่บรรดาร้านค้า พ่อค้าแม่ค้า วิธีการใช้เงินจำเป็นต้องใช้อย่างไร? เพื่อให้การหมุนเวียนของเงิน 10,000 บาทในครั้งนี้ ต้องหมุนเวียนได้หลายรอบ จนสามารถผลักดันให้เศรษฐกิจในปีหน้าเติบโตได้ต่อเนื่อง

โครงการนี้ดูเหมือนง่าย เพราะเคยเกิดโครงการ “คนละครึ่ง” มาแล้ว แต่ก็อย่างว่า ในเชิงการเมือง…ไม่มีใครยอมทับรอยเท้ากัน ดังนั้นกระบวนการทำงานจึงต้องเปลี่ยนไปจากเดิม

ณ เวลานี้ ประชาชนคนไทยคงต้องรอความชัดเจนที่แน่นอนกันซะก่อน แต่ที่แน่ๆ แบงก์ชาติ ก็การันตีแล้วว่า นโยบายแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต ครั้งนี้ก็มีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ 4% แน่นอน

แต่ทั้งหลายทั้งปวง ก็ต้องมารอดูกันต่อไปว่า ผลของการแจกเงินครั้งนี้จะทะลุทะลวงเศรษฐกิจได้มากน้อยอย่างไร เพียงแค่อย่าเป็น “ไฟไหม้ฟาง” แบบพรึบเดียวแล้วหาย!!ก็พอ

…………………………

คอลัมน์ : EC Focus by Virgo

สนับสนุนคอลัมน์ โดย E@ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)