วันศุกร์, พฤษภาคม 10, 2024
หน้าแรกHighlightจับตาประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อแก้วิกฤตประเทศ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

จับตาประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อแก้วิกฤตประเทศ

เปิดวาระการประชุมสภาสมัยวิสามัญ 26 – 27 ต.ค.“เพื่อไทย” เตรียม 20 ขุนพลอภิปรายเปิดต้นตอของปัญหา-หาทางออกประเทศ ส่วนปชป. ย้ำจุดยืน เทิดทูนสถาบัน ร่วมกันหาทางออก

เมื่อวันที่ 26  ต.ค. เวลา 09.30 น.ที่รัฐสภาจะมีการประชุมสภาสมัยวิสามัญ วันที่ 26-27 ต.ค. 2563 ตามหนังสือที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ส่งถึงประธานรัฐสภา เพื่อขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ตามมาตรา 165 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร

อ่านรายละเอียด

สำหรับเวลาในการประชุมแบ่งการกรอบเวลาอภิปรายเป็น 4 กลุ่ม รวม 23 ชม.ประกอบด้วย ฝ่ายค้าน 8 ชม. ฝ่ายรัฐบาล ส.ว. และ ครม.ฝ่ายละ 5 ชม. และแบ่งเวลาให้ประธานรัฐสภาอีก 1-2 ชม. และการประชุมในวันที่ 26 ต.ค.เริ่มเวลา  09.30 -22.00 น ส่วนวันที่ 27 ต.ค.จะอภิปรายต่อจนครบเวลาที่เหลืออยู่

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ ผศ.ดร.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงเตรียมความพร้อมและหารือแนวทางการอภิปรายในการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ วันที่ 26-27 ตุลาคมนี้ว่า  พรรคเพื่อไทยได้เตรียมหัวข้อและผู้อภิปรายในครั้งนี้ 20 คน ทั้งนี้ คำขอเปิดอภิปรายของรัฐบาลที่กำหนดไว้ 3 ประเด็น พรรคเพื่อไทยจะยึดข้อบังคับการประชุมรัฐสภาเป็นหลักและนอกจากนี้จะมีการตั้งวอร์รูมคู่ขนานไปกับสภาผู้แทนราษฎร เพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงบางมุมมอง โดยผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ นำเสนอผ่านสื่อของพรรคเป็นหลัก

ขณะที่ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าทางพรรคเห็นตรงกันว่า หลักในการอภิปราย จะมีการนำเสนอข้อมูลที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ บนพื้นฐานจุดยืนของพรรคที่ชัดเจนมาโดยตลอด คือยึดมั่นในการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นอุดมการณ์ ตั้งแต่ก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์มาเมื่อปี 2489 จนถึงปัจจุบัน

นายราเมศ กล่าวต่อว่า เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาทางการเมืองปัจจุบันควรใช้แนวทางสันติ ไม่ใช้ความรุนแรง และที่สำคัญ คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีความจำเป็นต้องชี้ให้เห็นว่า คืออีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญเช่นกันในการหาทางออกให้กับประเทศ และจุดยืนของพรรคมีความชัดเจนในเรื่องนี้คือการเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่คือ แก้ มาตรา 256 และ ตั้ง สสร. ให้เร็วที่สุดโดยไม่มีการแก้ไข ในหมวด 1 และ หมวด 2



- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img