วันอาทิตย์, พฤษภาคม 12, 2024
หน้าแรกNEWSนายกฯย้ำให้ ‘ตีเหล็กขณะยังร้อน’ ลุยเดินหน้าส่งเสริมFTAไทย-ศรีลังกา
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

นายกฯย้ำให้ ‘ตีเหล็กขณะยังร้อน’ ลุยเดินหน้าส่งเสริมFTAไทย-ศรีลังกา

นายกฯ กล่าวถ้อยแถลงในงาน Sri Lanka – Thailand Business Forum ย้ำให้ ‘ตีเหล็กขณะยังร้อน’ เดินหน้าส่งเสริม และสนับสนุนการใช้ประโยชน์จาก FTA ไทย-ศรีลังกาอย่างเต็มที่

เมื่อวันที่ 3 ก.พ.เวลา 16.45 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงโคลัมโบ ) ณ The Balmoral โรงแรม The Kingsbury นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถ้อยแถลงในงาน Sri Lanka – Thailand Business Networking โดยมีนายรานิล วิกรมสิงเห ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา เข้าร่วมงานด้วย

โอกาสนี้นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นการเดินหน้าประเทศของศรีลังกา มั่นใจว่าการที่บริษัทชั้นนำของไทยกว่า 20 แห่งร่วมเดินทางมาในครั้งนี้ และการลงนาม FTA ไทย-ศรีลังกาสะท้อนถึงความรู้สึกเชื่อมั่นในศักยภาพระหว่างกันเช่นกัน โดยด้านการค้าระหว่างไทยและศรีลังกาเติบโตร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับปี 2565 คิดเป็นสัดส่วนการส่งออกจากไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.4 และส่งออกจากศรีลังกาเพิ่มขึ้นร้อยละ 43 และในภาคการผลิต ที่การแปรรูปอาหารทะเลของศรีลังกามีความโดดเด่น ซึ่งศักยภาพความร่วมมือระหว่างบริษัทจากทั้งสองประเทศสามารถเดินหน้าอุตสาหกรรมนี้สู่ตลาดทั่วโลกได้กกกกกกกกกกกกก

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ขณะที่ สินค้าขั้นกลาง (Intermediate Goods) ของไทยเองก็สามารถมีส่วนสนับสนุนอุตสาหกรรมการบริการที่กำลังเติบโตของศรีลังกา ที่รวมไปถึงการพัฒนาทักษะ และการเสริมสร้างขีดความสามารถ ผ่านความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาและการโรงแรมระหว่างกัน และในด้านการท่องเที่ยว ทั้งสองประเทศสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นฐานความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมและศาสนาที่ใกล้ชิดระหว่างประชาชน โดยเฉพาะที่การบินไทยจะกลับมาให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์ กรุงเทพฯ-โคลัมโบ ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.

นายเศรษฐา กล่าวว่าด้านการลงทุน มีบริษัทในไทยจำนวนมากดำเนินธุรกิจในศรีลังกา โดยเฉพาะด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การผลิต และพลังงาน ซึ่งตนก็สนับสนุนให้บริษัทอื่นๆ ของไทย ใช้ประโยชน์จากโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังเติบโตของศรีลังกา และความได้เปรียบทางภาษีในตลาดต่างประเทศ และการเชื่อมโยงทางทะเล ศรีลังกาสามารถเป็นพันธมิตรสำคัญของไทย ที่มีเป้าหมายในการเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียน ด้วยโครงการ Landbridge ของไทยที่จะเชื่อมทะเลอันดามันกับอ่าวไทย และลดเวลาการขนส่งระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดีย

นายเศรษฐา กล่าวว่า ทั้งนี้ด้วยสุภาษิตที่ว่า ‘จงตีเหล็กขณะยังร้อน’ ก็ต้องสนับสนุนธุรกิจจากทั้งสองฝ่ายให้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จาก FTA ที่ลงนามในวันนี้ และอวยพรให้งานในวันนี้ประสบความสำเร็จ

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img