วันศุกร์, พฤษภาคม 10, 2024
หน้าแรกNEWSกนง.เคาะขึ้นดอกเบี้ย 0.25%คุมเงินเฟ้อ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

กนง.เคาะขึ้นดอกเบี้ย 0.25%คุมเงินเฟ้อ

กนง.ไฟเขียวขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ย้ำเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจไทยพร้อมเกาะติดเงินเฟ้อพื้นฐาน-การส่งผ่านต้นทุน-เศรษฐกิจโลก  เผยยังไม่พิจารณาต่อมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้

 

 

 

 

 

 

นายปิติ ดิษยทัต เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)มีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี จาก 1.25%มาอยู่ที่ 1.50% ต่อปีโดยภาพรวมเศรษฐกิจเมื่อเทียบการประชุมคราวที่แล้วมีข้อมูลใหม่ที่เข้ามาและมีนัยยะสำคัญ
2 ประเด็น

คือ 1.เศรษฐกิจจีนที่มีการปรับเปลี่ยนนโยบายด้านโควิด-19 และอสังริมทรัพย์ และ2.เศรษฐกิจต่างประเทศมีสัญญาณไม่ได้แย่อย่างที่คาดการณ์ไว้ซึ่งเป็นปัจจัย 2 ตัวที่มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งจะสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยฟื้นกลับมาก่อนช่วงโควิด-19

โดยแรงขับเคลื่อนหลักมาจากภาคการท่องเที่ยวที่ปรับจาก 11 ล้านคน เป็น 25.5 ล้านคน และในปี 2566 เป็น 34 ล้านคน โดยตัวแปรหลักมาจากนักท่องเที่ยวจีนซึ่งจะหนุนภาคการบริโภคที่เกี่ยวกับภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่องและเข้มแข็งรายได้ลูกจ้างและตลาดแรงงานปรับดีขึ้นโดยจะมีแรงงานผู้ที่ได้รับประโยชน์จากภาคการท่องเที่ยวที่มีสัดส่วน 60% จะหนุนการบริโภคปีนี้ให้เติบโตต่อไปได้

อย่างไรก็ดี แม้ว่าแรงกดดันอัตราเงินเฟ้อในด้านอุปทานทั้งจากราคาน้ำมันและอาหารสดลดลงตามคาดการณ์
ทำให้เงินเฟ้อทั่วไปโน้มลดลงตามประมาณการ และจะเข้ากรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ
1-3%ในปลายปีนี้แต่ยังคงต้อติดตามอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจากแรงกดดันทางด้านอุปสงค์โดยเฉพาะการส่งผ่านต้นทุนที่มีการค้างคาอยู่
ซึ่งในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้นอาจจะมีการส่งผ่านต้นทุนจากผู้ประกอบการที่ค้างคาไว้ทำให้ในปีนี้และปี
2567 อัตราเงินเฟ้อจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น

สิ่งที่คณะกรรมการฯ จับตา คือ แนวโน้มเงินเฟ้อแม้ว่าจะมีแนวโน้มลดลง แต่ยังคงต้องติดตามไส้ในที่มีการเปลี่ยนแปลงรวมถึงเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจจีนจะมีพัฒนาการแบบไหน การส่งผ่านต้นทุน
ซึ่งตอนนี้คณะกรรมการฯ มองว่า
การทยอยขึ้นดอกเบี้ยเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในระยะข้างหน้า
และหากดูแนวโน้ม
Terminal Rate หรือจุดสูงสุดของดอกเบี้ยนโยบายเป็นโจทย์ที่จะต้องติดตามและพิจารณาในคราวถัดไป แต่ตอนนี้การฟื้นตัวเศรษฐกิจยังคง Takeoff และฟื้นตัวยั่งยืน สอดคล้องกับการขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง”

สำหรับการส่งผ่านนโยบายการเงินต่อสถาบันการเงินนั้น มองว่าภายหลังจากการปรับดอกเบี้ยนโยบายการเงิน
จะเห็นว่าธนาคารพาณิชย์พยายามแยกกลุ่มเป้าหมายในการส่งผ่านต้นทุนอัตราดอกเบี้ยโดยที่ผ่านมาธุรกิจขนาดใหญ่ที่ใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี(
MLR) ปรับเพิ่มขึ้นพอสมควรขณะที่ลูกค้ากลุ่มเปราะบางที่ใช้อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) จะปรับน้อยกว่าในอดีตที่ผ่านมาและหากมองไปข้างหน้าธนาคารพาณิชย์ได้มีการประเมินว่าความต้องการสินเชื่อมีอยู่และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สะท้อนภาพเศรษฐกิจฟื้นตัว ทั้งสินเชื่อรายใหญ่
และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี)ขณะเดียวกันธนาคารก็มีการเฝ้าระวังการปล่อยสินเชื่อ

รวมถึงมีมาตรการดูแลกลุ่มเปราะบางที่อ่อนไหวทางด้านการเงินและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ยังมีมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ซึ่งมองว่ายังเพียงพอกับสถานการณ์ปัจจุบันจึงไม่จำเป็นต้องพิจารณาต่อมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่จะครบกำหนดกลางปีนี้

หลังกนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ต่อปีเชื่อว่าตลาดและธนาคารพาณิชย์มีการคาดการณ์ไว้อยู่แล้วโดยการส่งผ่านจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่ก่อให้เกิดหนี้เสีย หรือกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ซึ่งกนง.ได้มีการชั่งน้ำหนักในการพิจารณาการปรับดอกเบี้ยโดยภาคครัวเรือนยังสามารถรับภาระได้อยู่”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img