วันศุกร์, พฤษภาคม 3, 2024
หน้าแรกHighlightเปิดโพล 10 อาชีพในฝันของเด็ก Gen Z วิศวกรความปลอดภัยทางไซเบอร์มาแรง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เปิดโพล 10 อาชีพในฝันของเด็ก Gen Z วิศวกรความปลอดภัยทางไซเบอร์มาแรง

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเผย 10 อาชีพในฝัน ของเด็ก Gen Z อาชีพวิศวกรไซเบอร์มาแรง เผยสาเหตุ ชี้ มีโอกาสหารายได้ง่าย รองลงมาเป็นแพทย์

นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายยุทธศาสตร์และผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึง 10 อาชีพเด่น อาชีพในฝันของเด็กรุ่นใหม่ และสถานภาพของเด็ก Gen Z ปี 2567 ดังนี้

1.วิศวกรความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Network Security) หรือเจ้าหน้าที่ทางเทคนิคความปลอดภัย
2.แพทย์ ด้านศัลยกรรม ด้านผิวหนัง
3.นักกายภาพบำบัด, นักจิตวิทยา และทันตแพทย์
4.นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst) Data Analyst) หรือนักออกแบบข้อมูล
5.ยูทูบเบอร์, ติ๊กต็อกเกอร์, อินฟลูเอนเซอร์, สตรีมเมอร์ และพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์
6.ดารา นักแสดง นักร้อง, นักการตลาดออนไลน์, นักพัฒนาซอฟต์แวร์
7.นักวิเคราะห์การเงิน ที่ปรึกษาการเงิน และนักวางแผนทางการเงิน
8.ผู้ประกอบการ (ธุรกิจส่วนตัว)
9.ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ กฎหมาย
10.ติวเตอร์ และหมอดู

สำหรับอาชีพวิศวกรความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ เป็นอาชีพในฝันอันดับหนึ่งของเจน Z เพราะปัจจุบันโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัล เกิดปัญหาโจมตีของแฮกเกอร์บ่อย ทำให้ตลาดมีความต้องการอาชีพดังกล่าวมาก และยังมีผลตอบแทนที่สูง รองลงมา คือ แพทย์ และนักจิตวิทยา 2 คือ แพทย์ นักจิตวิทยา เนื่องจากปัจจุบันสังคมไทยมีการแข่งขันมาก ทำให้คนไทยเป็นโรคเครียด โรคซึมเศร้า และกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ

ส่วนอาชีพหมอดูที่ติด 1 ใน 10 อาชีพในฝัน เพราะปัจจุบันความต้องการดูหมอมีมากขึ้นในยุค มูเตลู เป็นโอกาสในการหารายได้ง่าย และ มีอัตราผลตอบแทนสูง ยิ่งได้รับความนิยมบางครั้งค่าดูต่อชั่วโมงอยู่ที่หลักพันถึงหลักหมื่นบาท ซึ่งสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำต่อวันมาก

นอกจากนี้กลุ่มเจนแซดอยากให้ภาครัฐเข้ามามีบทบาทสำคัญได้แก่ การส่งเสริมการศึกษาของเด็กไทยให้เทียบเท่าหรือแข่งขันกับต่างประเทศได้ โดยเฉพาะปรับปรุงและพัฒนาระบบการเรียนการสอนของไทยให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ ส่งเสริมการเรียนภาษาต่างประเทศยกระดับทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียนของเด็กไทยและอื่นๆควบคู่กันไปทั้งการจัดกิจกรรมหรืออีเว้นท์พร้อมทั้งสนับสนุนการศึกษาให้กับผู้ด้อยโอกาสหรือผู้ยากจน

นอกจากนี้ ที่สิ่งหนึ่งที่มีความเป็นห่วงเด็กรุ่นใหม่ โดยเฉพาะพฤติกรรมการออมเงินและการใช้จ่าย โดยเด็กรุ่นใหม่กว่า 30.3% มีการออมเงิน แต่ 65.0% ไม่มีทั้งการออมเงินและการลงทุน โดยจะเป็นการขอเงินจากผู้ปกครอง ยืมเงินเพื่อนหรือคนที่รู้จัก ได้จากการทำงานพิเศษ กู้ยืมเงินในระบบหรือนอกระบบ ขายสินทรัพย์ส่วนตัว ดังนั้นสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลมนับสนุนคือ เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา และให้นักษามีงานทำระหว่างเรียน ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงขึ้นและอื่นๆเป็นต้น

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img