วันเสาร์, พฤษภาคม 4, 2024
หน้าแรกHighlight“หอการค้า”แนะ 3 แนวทางใช้เงินดิจิทัล เน้นกลุ่มเปราะบาง-ใช้แอป“เป๋าตัง”ดีกว่า
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“หอการค้า”แนะ 3 แนวทางใช้เงินดิจิทัล เน้นกลุ่มเปราะบาง-ใช้แอป“เป๋าตัง”ดีกว่า

“หอการค้าไทย” เสนอ 3 แนวทางใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต เน้นจัดสรรให้กลุ่มเปราะบางเดือดร้อนอันดับแรกก่อน หลังโครงการล่าช้า แนะใช้แอปเป๋าตังแทน Super App เพื่อความรวดเร็วไม่ต้องทดสอบระบบใหม่ พร้อมเปิดโอกาสให้ร้านที่ไม่ลงทะเบียนระบบภาษีเข้าโครงการได้

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยมีข้อเสนอเกี่ยวกับนโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท 3 ประเด็น คือ

1.ดำเนินการของ Digital Wallet ที่เลื่อนไปไตรมาส 4 หอการค้าไทยมองว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าไป ซึ่งหากเป็นไปได้ อยากจะให้มีเร่งจัดสรรงบประมาณปี 2567 โดยจัดสรรให้เฉพาะกลุ่มเปราะบางที่เดือดร้อนก่อน แล้วค่อยให้กลุ่มที่เดือดร้อนน้อยที่เหลือตามมาจะช่วยเร่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยมากกว่าการรอไตรมาส 4

2.การจัดทำ Appication ใหม่ (Super App) ส่วนนี้หอการค้าเคยเสนอใช้ App เป๋าตัง เพราะประชาชนคุ้นเคย ซึ่งได้พิสูจน์แล้วว่าเข้าถึงประชาชนได้และทำได้เร็ว หากนำ super app มาใช้จะทำให้เกิดความยุ่งยากกับประชาชนและอาจจะเกิดความล่าช้า เพราะต้องไปทั้งเขียนและทดสอบระบบใหม่

3.ประเด็นเงินหมุนเวียนในจังหวัด ที่ต้องใช้ร้านค้าที่ลงทะเบียน ส่วนนี้อยากให้รัฐบาลเปิดโอกาสและมีมาตรการจูงใจให้ร้านค้าที่ยังไม่เข้าระบบภาษีได้เข้ามาเป็นทางเลือกให้ประชาชน เพราะกลุ่มนี้อาจจะกังวลเรื่องภาษีก็จะทำให้โครงการนี้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

อย่างไรก็ตาม โครงการ Digital Wallet จะประสบผลสำเร็จและมีความสัมฤทธิ์ผลมากอยู่ที่ดำเนินการได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี การใช้เงินในพื้นที่จะเกิดการหมุนเวียนเร็วและหลายรอบ นอกจากนี้ รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการลดต้นทุนผู้ประกอบการและประชาชน เสริมด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่น ๆ ควบคู่กันไปเพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยเดินฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การใช้ Super App แทนเป๋าตัง มองว่าเมื่อรัฐบาลต้องการให้เงินลงไปกระตุ้นเศรษฐกิจเร็ว App เป๋าตังก็พิสูจน์มาแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้ก็ถูกแก้ไขจนใช้ได้ดี ซึ่งหากจะใช้ App เป๋าตังจะมีความคลอบคลุมและไม่มีข้อผิดพลาดหรือผิดพลาดน้อย เพียงแต่ปรับข้อมูลเพิ่ม เช่น พื้นที่การใช้เงินก็สามารถใช้ได้เลย

แต่หากใช้ Super App จะต้องทดสอบ รอความเสถียรของ Super App ก่อน หากนำไปใช้แล้วเกิดความผิดพลาดจะให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจช้าไปด้วย นอกจากนี้การที่รัฐบาลต้องการให้ประชาชนรู้จักเงินคริปโทเคอร์เรนซีก็ไม่น่าจะใช้แหตุผล การใช้ App ที่เคยใช้มาแล้วน่าจะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงมากกว่า

รวมทั้งยังไม่แน่ชัดว่าเงินดิจิทัลจะดำเนินการได้ในไตรมาส 4 จริงหรือไม่ วงเงินจะเป็นเท่าไร และยังจะต้องตีความการใช้เงิน ธ.ก.ส.ตามมาตรา 28 อีกหรือไม่ ซึ่งหากมีการใช้เงินเต็มวงเงิน วงเงิน 5 แสนล้านบาทก็จะกระตุ้นจีดีพีได้ 1.5 % และจะทำให้จีดีพีไทยขยายตัวได้ 3% ตามที่รัฐบาลวางเป้าหมายไว้

อย่างไรก็ตามขณะนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งพื้นฐานเศรษฐกิจของไทยจากการสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคและความเชื่อมั่นหอการค้าไทยเห็นตรงกันว่า กำลังซื้อประชาชนแผ่วลง แม้สงกรานต์จะคึกคักก็ตาม และราคาพืชผลทางการเกษตรจะดีแต่เงินก็อยู่ในมือเกษตรกรไม่มาก

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img