ศบศ. ไฟเขียวโครงการส่งเสริม-รักษาจ้างงานเอสเอ็มอี วงเงินประมาณ4.6 หมื่นล. ให้นายจ้างรักษาจ้างงานให้ได้95% และเล็งตั้งกองทุนพลิกโฉมท่องเที่ยวไทย
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมเห็นชอบหลักการโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจเอสเอ็มอี เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานสร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มธุรกิจ โดยรัฐบาล ยืนยันว่า จะหาทางการรักษาการจ้างงานและมาตรการการจ้างงานใหม่ เพื่อแก้ปัญหาการว่างงาน ทดแทนปัญหาการขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรม และยังไม่มีการอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ ขณะเดียวกัน ก็ต้องการเห็นคนไทยมีงานทำ โดยเฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรมที่ทันสมัย เพื่อรักษาระดับการจ้างงานให้ธุรกิจเอกชนด้วย
ทั้งนี้ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ชี้แจงรายละเอียดโครงการนี้ โดยรัฐจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อส่งเสริมและรักษาการจ้างงานผ่านนายจ้างเพื่อรักษาการจ้างงานในอัตรา 3,000 บาทต่อลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตนนามมาตรา 33 สัญชาติไทยต่อเดือน แต่ไม่เกิน 200 คน เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยเงินอุดหนุนจะคำนวณตามยอดการจ้างงานจริงของทุกเดือน พิจารณาจากจำนวณลูกจ้างที่นำส่งเงินสมทบประกันสังคมจากระบบประกันสังคม โดยจะจ่ายเงินอุดหนุนทุก วันทำการสุดท้ายของเดือน
แต่มีเงื่อนไขว่า นายจ้างจะต้องรักษาระดับการจ้างงานไม่ต่ำกว่า 95% ในระหว่างเข้าร่วมโครงการฯ และหากนายจ้างไม่สามารถรักษาระดับการจ้างงานให้ไม่ต่ำ 95% ได้จะไม่ได้รับเงิน อุดหนุนในเดือนนั้น ขณะเดียวกัน กรณีนายจ้างมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นจากยอดการจ้างงาน ณ วันเริ่มโครงการ จะได้รับเงินอุดหนุนเพิ่มตามจำนวนการจ้างงานจริง โดยนายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้างไม่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ของแต่ละจังหวัดตามประกาศคณะกรรมการค่าจ้างฯ พร้อมกันนี้ยังมีการติดตามและตรวจสอบการจ้างงานอย่างต่อเนื่องด้วย
สำหรับการดำเนินโครงการทั้งหมดนั้น จะใช้เงินรวม 46,873 ล้านบาท ส่วนแรกการรักษาการจ้างงานในกลุ่มเอสเอ็มอี 95% รวม 480,122 แห่ง คิดเป็นจำนวนลูกจ้าง 5,040,176 คน วงเงิน 45,361 ล้านบาท และอีกส่วน คือ การส่งเสริมการจ้างงานใหม่ในกลุ่มเอสเอ็มอี 5% จำนวนไม่เกิน 252,009 ราย ระยะเวลาไม่เกิน 2 เดือน วงเงิน 1,512 ล้านบาท ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้ สศช. ในฐานะคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ จะจัดทำรายละเอียดเสนอที่ประชุมครม.พิจารณาภายในเดือนต.ค.นี้ เบื้องต้นกำหนดให้นายจ้างลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. – 20 พ.ย. 64 ก่อนจะเริ่มจ่ายเงินให้งวดแรกเดือนพ.ย.นี้ ไปจนถึงเดือนม.ค.65
นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบแนวทางการขับเคลื่อนการเปิดประเทศด้านการท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งการขยายผลและพลิกโฉมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตเพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศในช่วง ไตรมาสที่ 4 ปี 64 – ไตรมาสแรกปี 65 จำนวน 1 ล้านคน หรือเฉลี่ยวันละไม่น้อยกว่า 5,000 คน คาดว่าจะสร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 6 หมื่นล้านบาท พร้อมจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อใช้ในการพลิกโฉมการท่องเที่ยวไทย และการประกาศส่งเสริมปีท่องเที่ยวไทย 65 อะเมซิ่งยิ่งกว่าเดิม
