วันศุกร์, พฤษภาคม 3, 2024
หน้าแรกHighlight“ขุนคลัง”หนุนเอกชนดันส่งออกปีเสือโต 10%
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ขุนคลัง”หนุนเอกชนดันส่งออกปีเสือโต 10%

“อาคม” ถกเอกชนขยับเป้าส่งออกปีนี้โต 10% พร้อมขจัดปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ เต็มที่ เดินหน้าจัดทำงบประมาณขาดดุลในปี 66 ประคองเศรษฐกิจฟื้นตัว

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจในปีนี้อยู่ในช่วงเริ่มขึ้นในไตรมาสที่ 2 ซึ่งข้อมูลการ ส่งออกเดือนมี.ค. ของกรมศุลกากรยังแสดงให้เห็นถึงการขยายตัว ทั้งการส่งออกและการนำเข้ายังเติบโตได้ดี จึงเชื่อว่าตัวเลขการส่งออกไทยในไตรมาสที่ 1 (ม.ค.-มี.ค.) น่าจะขยายตัวที่ 12-15% แสดงให้เห็นว่าภาคการส่งออกยังเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ และจากที่ได้คุยกับสภา ผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย คาดการณ์ว่าการส่งออกปีนี้จะขยายตัวที่ 5% แต่ถ้าดูการส่งออกในไตรมาสที่ 1 มีการขยายตัว 12-15% จึงขอให้สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือขยับเป้าหมายการส่งออกเป็น 10% ซึ่งจะช่วยชดเชยผลกระทบในเรื่องของต้นทุนวัตถุดิบที่ราคาสูงขึ้น และมีส่วนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้มากขึ้น หากการส่งออกมีปัญหาส่วนไหนก็ขอให้บอก ถ้าเป็นส่วนของกระทรวงการคลังจะช่วยเต็มที่

ส่วนสถานการณ์เศรษฐกิจในภาพรวม จากที่รัฐมีมาตรการต่างๆ ในการช่วยเหลือและผ่อนคลายมาตรการด้านการป้องกันโควิด-19 ลงเรื่อยๆ จะทำให้เศรษฐกิจในครึ่งแรกของปีนี้ดีขึ้น และช่วงครึ่งหลังของปีน่าจะผ่อนคลายมาตรการที่เข้มงวดลงได้มากขึ้น

ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่ระดับของการใช้จ่ายภายในประเทศของนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ เชื่อว่าการท่องเที่ยวจะผ่อนคลายมากขึ้น ทั้งในเรื่องเทสต์แอนด์โกที่ปรับขั้นตอนให้ง่ายขึ้น สะดวกต่อนักท่องเที่ยวในการเดินทางเข้าประเทศไทย

สำหรับการจัดงบประมาณขาดดุลเป็นแนวทางเดียวกับประเทศ อื่นๆ เพื่อช่วยประคองเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง การทำงบขาดดุล หมายถึงการใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่มีอยู่ แต่ปีงบประมาณ 2566 กระทรวงการคลังได้ส่งสัญญาณแล้วว่าจะทำให้การขาดดุลต่อรายได้ลดลง ไม่เช่นนั้นจะเกิดการขาดดุลสะสมไปเรื่อยๆ

ดังนั้น โครงการของรัฐบาลบางส่วนจะไปใช้การลงทุน รูปแบบโครงการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (พีพีพี) มากขึ้น ส่วนตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปีนี้เจอผลกระทบ ต่างๆ เกิดขึ้น เชื่อว่าจีดีพีปีนี้จะอยู่ที่ 3-4% ลดลงเล็กน้อยจากเดิมคาดการณ์ที่ 3.5-4.5% โดยมีประเด็นที่ต้องติดตามคือเรื่องราคาสินค้าแพง อย่างต้นทุนการผลิตคือปุ๋ย อาหารสัตว์ กระทรวงการคลังพร้อมช่วยเหลือ โดยเฉพาะเรื่องภาษีเพื่อลดต้นทุนการนำเข้า แต่ต้องวิเคราะห์ให้รอบคอบ อย่าให้ประโยชน์ไปตกอยู่ที่บริษัทใหญ่อย่างเดียว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img