วันศุกร์, พฤษภาคม 3, 2024
หน้าแรกHighlight''กองทุนน้ำมันฯ''บักโกรกยื่นขอใช้งบกลางอุดหนุนดีเซล
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

”กองทุนน้ำมันฯ”บักโกรกยื่นขอใช้งบกลางอุดหนุนดีเซล

กองทุนน้ำมันฯ ยื่นรัฐขอใช้งบกลางเสริมสภาพคล่องอุดหนุนราคาดีเซลระหว่างรอสถาบันการเงินพิจารณาปล่อยเงินกู้ เผยกระแสเงินสดที่มีอยู่ 1.2 หมื่นล้านบาทสามารถต่อลมหายใจได้อีก 1 เดือน

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสำนักงานอยู่ในระหว่างเดินเรื่องตามมาตรา 6 ในวงเล็บ 2 ที่ระบุให้รัฐบาลใช้วิธีจัดสรรงบประมาณให้กองทุนในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินและจำเป็น ในช่วงที่อยู่ระหว่างเจรจาขอกู้เงินจากสถาบันการเงิน หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้กองทุนน้ำมันฯสามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินได้รวม 3 หมื่นล้านบาท โดยขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของทางสถาบันการเงินกำลังพิจารณา แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระแสเงินสดของกองทุนฯยังมีเหลืออยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพียงพอใช้ได้อีกอย่างน้อย 1 เดือน

” ได้ยื่นเรื่องอย่างเป็นทางการเพื่อขอกู้เงินจากธนาคารออมสินแล้ว ในนามของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจากเป็นนิติบุคคล ซึ่งสามารถกู้เงินได้ เชื่อว่าเรื่องยังอยู่ในกระบวนการขออนุมัติของบอร์ดธนาคาร ซึ่งต้องการความชัดเจนในเรื่องของแผนการชำระหนี้ของสำนักงาน แต่ในอดีตเราก็เคยกู้เงินและสามารถชำระคืนได้ภายใน 3 ปี” 

ทั้งนี้ปัจจุบันสถานะของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงขณะนี้ ติดลบอยู่ 7.1 หมื่นล้านบาท จากการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลในประเทศ โดยตัวกองทุนน้ำมันฯจะมีเงินไหลเข้าเฉลี่ย 2 พันล้านบาทต่อเดือน แต่มีเงินไหลออกเฉลี่ย 7 พันล้านบาทต่อเดือน ทำให้กองทุนติดลบอยู่ประมาณ 5 พันล้านบาทต่อเดือน ซึ่งขณะนี้ถือว่ากองทุนยังสามารถบริหารจัดการได้ เนื่องจากมีกระแสเงินสดที่ฝากไว้ที่กระทรวงการคลังอีก 1.2 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากผลสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งรัฐบาลก็ได้มีนโยบายในการดูแลราคาน้ำมันดีเซลเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน แต่เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดูไบที่ยังปรับตัวสูงต่อเนื่อง โดยปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 107-110 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งส่วนต่างที่รัฐบาลอุดหนุนให้ในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 7-9 บาทต่อลิตร หรือใช้เงินเฉลี่ย 1 หมื่นล้านบาทต่อเดือน

“ในสัปดาห์นี้ ยังคงตรึงให้ราคาดีเซลอยู่ที่ 32 บาทต่อลิตรได้หรือไม่ ก็เป็นไปได้ แต่ก็ต้องติดตามสถานการณ์ของตลาดโลกด้วย เพราะทุกครั้งที่สหรัฐ และจีน มีการขยับตัว ก็จะกระทบต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก ขณะที่การดูแลราคาน้ำมันหลังสิ้นสุดมาตรการรัฐจะไปอย่างไรนั้น คงจะขึ้นอยู่กับฝ่ายนโยบาย”

ทั้งนี้ในปัจจุบันมีการใช้น้ำมันดีเซลในประเทศ เฉลี่ย 66 ล้านลิตรต่อวัน โดยกองทุนน้ำมันต้องใช้เงินอุดหนุนลิตรละ 6.50 บาท ซึ่งคาดว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดจะปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ประเทศจีนคลายล็อกดาวน์

โดยในครั้งนี้ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและกรมสรรพสามิต ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกัน ในการเชื่อมโยงข้อมูลการนำส่งเงิน และการรับเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมัน ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้การนำส่งเงินให้กองทุนและการรับเงินชดเชยจากกองทุนของผู้ประกอบการในธุรกิจพลังงาน ทำได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิมที่ต้องตรวจสอบเอกสารการส่งเงินและการรับเงินที่มีเป็นจำนวนมาก หรือจากใช้เวลาเป็นเดือน ก็จะใช้เวลาเพียง 1-2 วัน ซึ่งยังส่งผลดีต่อสภาพคล่องของบริษัทน้ำมัน เพราะจะได้รับคืนหรือเงินชดเชยราคาน้ำมันจากกองทุนน้ำมันฯได้เร็วขึ้น

ด้านนายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลได้ประกาศลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ทำให้กรมสรรพากรสูญเสียรายได้จากภาษีน้ำมันดีเซล รวม 3.7 หมื่นล้านบาท ทำให้เป้าหมายการจัดเก็บภาษีในปีนี้ของกรมที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 5.9 แสนล้านบาท

ซึ่งเมื่อหักรายได้ที่สูญเสียไปจากการลดภาษีน้ำมันดีเซลแล้ว คาดว่าจะเหลือ 5.5 แสนล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ ในสิ้นปีงบประมาณนี้ หรือสิ้นเดือนกันยายน 2565 อาจเก็บได้เพียง 5.1 แสนล้านบาท ถึง 5.3 แสนล้านบาทเท่านั้น ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตมีสัดส่วนของรายได้จากภาษีน้ำมันมากที่สุด ประมาณ 2 แสนล้านบาทต่อปี รองลงมาคือ ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และภาษีสรรพสามิตสุราและเบียร์

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img