วันอาทิตย์, พฤษภาคม 12, 2024
หน้าแรกHighlight“พท.”ตำหนิ“บิ๊กตู่”สั่งงานผิดฝา-ผิดตัว ตั้งเลขาสมช.แก้วิกฤติพลังงาน-อาหาร
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“พท.”ตำหนิ“บิ๊กตู่”สั่งงานผิดฝา-ผิดตัว ตั้งเลขาสมช.แก้วิกฤติพลังงาน-อาหาร

“อรุณี” ตำหนิ “ประยุทธ์” สั่งงานผิดฝาผิดตัว ตั้ง “เลขาสมช.” แก้วิกฤตค่าครองชีพแพง ทำประชาชนเดือดร้อน หนัก ไม่แปลกใจทำไมคะแนนนิยมตกต่ำ

วันที่ 28 มิ.ย.65 น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ มอบหมายและสั่งการให้พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) รับมือวิกฤตความมั่นคงทางพลังงาน และอาหาร ว่า เป็นอีกครั้งที่พล.อ.ประยุทธ์ โยนเผือกร้อนงานใหญ่ ให้กับทหารที่ตนเองเชื่อมั่นเข้ามาทำหน้าที่แก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้น แต่เป็นการวางงานให้แบบ “ผิดฝาผิดตัว” อีกครั้ง เพราะความเป็นจริง การบริหารราชการแผ่นดินนั้นมีกระทรวงและรัฐมนตรีที่ผู้รับผิดชอบงานแต่ละด้านโดยตรงอยู่แล้ว มีกรม กองงาน ที่ทำหน้าที่ในการบริหารจัดการต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องตั้งเลขา สมช.ขึ้นมาซ้ำซ้อน เพราะจะทำให้เกิดการผลักภาระงานและโยนความรับผิดชอบกันไปกันมา เหมือนที่เคยเกิดขึ้นสมัยตั้ง เลขาสมช. มาเป็นผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศปก.ศบค.) สุดท้ายการแก้ไขปัญหาก็ล่าช้าและสร้างความสับสนให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งหมดจึงเป็นบทพิสูจน์ว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่มีความสามารถในการ “วางคนให้ตรงกับงาน” ทั้งที่มีอำนาจมากล้นมาตลอด 8 ปี เป็นทั้งนายกฯ เป็นหัวหน้าทีมเศษฐกิจ เป็นประธาน ศบค. เป็นทุกอย่างแล้วแต่ไม่สามารถนำพาประเทศชาติออกจากวิกฤตได้เลย ปัญหาต่างๆ ที่คลี่คลายลงล้วนแล้วเกิดจากสถานการณ์ที่คลี่คลายลงด้วยตัวเองทั้งสิ้น

น.ส.อรุณี กล่าวอีกว่า แท้จริงแล้ววิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2562 ที่สืบเนื่องต่อมาจากการรัฐประหารในปี 2557 ที่เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้ารัฐประหารเข้ามาบริหารประเทศเศรษฐกิจไทยตกต่ำลงเรื่อยๆ จนเมื่อมาเจอกับการระบาดของโรคโควิด-19 ยิ่งฉุดให้เศรษฐกิจทรุดหนักลงไป หากเป็นผู้นำที่มีความรู้ความสามารถบ้าง ภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาคงไม่ตกต่ำย่ำแย่อย่างที่เป็น และเมื่อเจอกับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูง ข้าวของแพงขึ้นเพราะต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น “รายได้เท่าเดิมแต่อำนาจซื้อน้อยลง” ทุกข์จึงตกกับประชาชนคนหาเช้ากินค่ำ แทนที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์จะเห็นสัญญาณสภาวะเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงที่สุดในรอบ 13 ปี ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ุที่ผ่านมา แต่กลับนิ่งนอนใจและไม่คิดหาแนวทางป้องกันและแก้ไขอย่างเป็นระบบ

“พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ที่มาจากการสนับสนุนของ ส.ว.250 การแก้ปัญหาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จึงไม่ยึดโยงกับอำนาจบริหารผ่านคณะรัฐมนตรีที่มาจากฝ่ายการเมือง เพราะมองและด้อยค่านักการเมืองทั้งที่มีความยึดโยงกับประชาชนเป็นหลัก คำพูดของพลเอกประยุทธ์ที่ว่าผมไม่เคยเป็นนายกฯมาก่อน แต่ยังเป็นนายกฯได้นั้นไม่ผิด แต่การเป็นนายกฯที่ดีและทำให้ประเทศชาติเจริญนี้เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความรู้ความสามารถ จึงไม่น่าแปลกใจที่ความนิยมในตัวนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยจะเพิ่มสูงขึ้นทิ้งห่างพล.อ.ประยุทธ์ เกือบ 14% เพราะประเทศชาติทุกวันนี้ต้องการความหวัง แต่กับนายกฯที่ชื่อพลเอกประยุทธ์ ที่คนไทยมองเห็นมีแต่ความสิ้นหวัง” น.ส.อรุณี กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img