วันเสาร์, พฤษภาคม 4, 2024
หน้าแรกHighlightนายกฯย้ำไทยพร้อมส่งเสริมความร่วมมือในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

นายกฯย้ำไทยพร้อมส่งเสริมความร่วมมือในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

นายกฯ หารือประธานคณะมนตรียุโรป ส่งเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน สิ่งแวดล้อม ความมั่นคง รวมทั้งความร่วมมือในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.65 เวลา 16.20 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงบรัสเซลส์) ณ อาคาร Europa กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พบหารือกับนายชาร์ล มีแชล (H.E. Mr. Charles Michel) ประธานคณะมนตรียุโรป ในห้วงการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ โดยภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญจากการหารือ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีที่การประชุมสุดยอดอาเซียน-EU สมัยพิเศษ เป็นครั้งแรกที่ผู้นำอาเซียนและประเทศสมาชิก EU มาประชุมกัน ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ EU มียุทธศาสตร์เพื่อความร่วมมือในอินโด-แปซิฟิก เพิ่มบทบาทและปฏิสัมพันธ์ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกกับอาเซียนและประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค รวมทั้งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในความสัมพันธ์ไทย-อียูด้วย โดยกำลังจะลงนาม PCA ที่สองฝ่ายจะใช้เป็นแผนความร่วมมือระหว่างกันต่อไป ไทยพร้อมเป็นหุ้นส่วนของ EU บนพื้นฐานค่านิยมร่วม ทั้งพหุภาคีนิยมที่ครอบคลุม ระเบียบระหว่างประเทศที่อิงกฎเกณฑ์ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ธรรมาภิบาล และหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากทั้ง EU และประเทศสมาชิกในการนำแผนปฏิบัติการอาเซียน-อียู ปี ค.ศ.2023-2027 และ PCA ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อประโยชน์ที่เท่าเทียมกันของสองฝ่ายต่อไป ไทยพร้อมร่วมงานกับท่านอย่างใกล้ชิด เปิดรับต่อการปรึกษาหารืออย่างสร้างสรรค์ และพร้อมปฏิสัมพันธ์กับทุกหน่วยงานของ EU

ประธานคณะมนตรียุโรปยินดีที่ได้พบกับนายกรัฐมนตรีในวันนี้ เพื่อหารือถึงแนวทางกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับ EU และยินดีที่ไทยและ EU จะได้ลงนามร่างกรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้าน (Thai-EU Partnership and Cooperation Agreement : Thai-EU PCA) ซึ่งจะเป็นกรอบในการเดินหน้าความร่วมมือต่าง ๆ ต่อไปอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ประธานคณะมนตรียุโรปยังกล่าวชื่นชมไทยในฐานะมิตรประเทศที่สำคัญและมีบทบาทนำในภูมิภาค หวังว่าจะได้ร่วมมือกับไทยกระชับความร่วมมือในด้านที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจร่วมกัน ทั้งการพัฒนาที่ยั่งยืน สิ่งแวดล้อม การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความร่วมมือด้านสาธารณสุข ความมั่นคง รวมทั้งความร่วมมือในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีและประธานคณะมนตรียุโรปยังหารือถึงการกระชับความร่วมมือในด้านต่างๆ ดังนี้

-ด้านความยั่งยืนและวาระสีเขียว ซึ่งไทยให้ความสำคัญกับการเติบโตเศรษฐกิจที่ยั่งยืนโดยใช้แนวทางโมเดลเศรษฐกิจ BCG สร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่เหมาะสม ยึดมั่นในเป้าหมายความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศ และการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ โดยนายกรัฐมนตรีเชิญชวน EU และประเทศสมาชิก EU ร่วมมือในการสนับสนุนภาคเอกชนไทย เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมที่สูงขึ้นซึ่ง EU มีความเชี่ยวชาญ ด้านประธานคณะมนตรียุโรปชื่นชมไทยที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยโมเดลเศรษฐกิจ BCG สอดคล้องกับแผนปฏิรูปยุโรปสีเขียวของ EU (European Green Deal) พร้อมร่วมมือกับไทย และให้ภาคเอกชนของทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ รวมทั้งผลักดันการขยายการลงทุน เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมและการวิจัยด้านความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม

-ด้านความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายเห้นพ้องถึงการกระชับความร่วมมือท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์ความมั่นคงโลก โดยไทยเห็นความจำเป็นของการรักษาไว้ซึ่งพื้นที่การหารือที่ครอบคลุมทุกฝ่าย ใช้การให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเป็นตัวนำ ซึ่งประธานคณะมนตรียุโรปพร้อมส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคง รวมทั้งการเสริมสร้างขีดความสามารถ การแลกเปลี่ยนข่าวกรอง บุคลากร และแนวปฏิบัติที่ดี พร้อมหารือเพิ่มเติมถึงการจัดตั้งกรอบการหารือด้านความมั่นคง เพื่อหารือในประเด็นความมั่นคงทางไซเบอร์ ความมั่นคงทางทะเล และการต่อต้านการก่อการร้าย กับไทยต่อไป

-ด้านความร่วมมือกับอาเซียน ประธานคณะมนตรียุโรปยืนยันในการให้ความสำคัญกับความเป็นแกนกลางของอาเซียน พร้อมร่วมมือกับไทยแสวงหาการหารือที่เปิดกว้าง สร้างสรรค์ ตลอดจนหลักการเรื่องการเคารพซึ่งกันและกัน ผลประโยชน์ร่วมกัน และความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน สำหรับไทย นายกรัฐมนตรีพร้อมร่วมมือกับ EU ในการส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอาเซียนและอินโด-แปซิฟิก และส่งเสริมการขับเคลื่อนวาระสำคัญภายใต้ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก อาทิ การอนุรักษ์ทะเลและการทำประมงยั่งยืน การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล การรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ ความร่วมมือด้านอวกาศ เป็นต้น

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img