วันเสาร์, พฤษภาคม 11, 2024
หน้าแรกHighlightเตือนอย่าบริโภค“ปลาปักเป้า”เด็ดขาด อันตราย“ถึงตาย”แม้บริโภคนิดเดียว!!!
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เตือนอย่าบริโภค“ปลาปักเป้า”เด็ดขาด อันตราย“ถึงตาย”แม้บริโภคนิดเดียว!!!

“กรมประมง” เตือนประชาชน ระวัง! พิษร้ายจาก “ปลาปักเป้า” หมดสติ-กล้ามเนื้อกระตุก แม้บริโภคเพียงเล็กน้อย แต่สามารถเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ชี้หากฝ่าฝืนจำหน่าย-นำเข้า-ผสมอาหาร โทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 2 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท

นายถาวร ทันใจ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กรมฯขอเตือนประชาชนหลีกเลี่ยงการรับประทานปลาปักเป้าอย่างเด็ดขาด โดยควรสังเกตเลือกซื้อปลาที่ผ่านการแล่ทุกครั้ง หากเป็นเนื้อปลาปักเป้าจะมีลักษณะชิ้นเนื้อหนา สีขาวอมชมพู ลายกล้ามเนื้อไม่ชัดเจน และมีเยื่อพังผืดหุ้มชิ้นเนื้อ เมื่อปรุงสุกเนื้อจะมีสีขาวคล้ายเนื้อไก่ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยควรเลือกซื้อเนื้อปลาที่ผ่านการแล่จากแหล่งที่ทราบชนิด รวมถึงแหล่งที่มาของเนื้อปลา เพื่อลดความเสี่ยงการบริโภคปลาปักเป้าอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต

ทั้งนี้ในปัจจุบันการรักษาพิษจากปลาปักเป้านั้น ยังไม่มีตัวยาใดที่สามารถแก้พิษได้ และการใช้ความร้อนในการปรุงอาหารไม่สามารถทำลายพิษของปลาปักเป้าได้เช่นกัน จึงขอฝากเตือนถึงประชาชนไม่ให้นำปลาปักเป้าทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นปลาปักเป้าน้ำจืดหรือปลาปักเป้าทะเล มาบริโภคโดยเด็ดขาด และหากสงสัยว่าได้รับพิษจากปลาปักเป้าให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน

สำหรับ “ปลาปักเป้า” ในประเทศไทยสามารถพบได้ทั้งในน้ำจืดและทะเล มีทั้งชนิดที่มีพิษและไม่มีพิษ สำหรับพิษของปลาปักเป้าพบได้ทุกส่วนของตัวปลา ซึ่งพบมากที่บริเวณไข่ ตับ เครื่องใน และหนัง โดยสามารถแยกประเภทของพิษตามชนิดของปลาปักเป้าได้ดังนี้

1.ปลาปักเป้าทะเล มีพิษที่เรียกว่า “เทโทรโดท็อกซิน” (Tetrodotoxin) ซึ่งมีผลต่อการทำงานของระบบกล้ามเนื้อและระบบประสาท ทำให้เกิดอาการลิ้นชา อาเจียน กล้ามเนื้อแขนและขาอ่อนแรง เดินเซ ขยับเขยื้อนไม่ได้ หายใจลำบาก ซึ่งหากมีอาการแพ้มากและรักษาไม่ทันอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยอาการมักเกิดอย่างรวดเร็วหลังรับประทานภายใน 5-20 นาที หรืออาจนานถึง 2-3 ชั่วโมง

2.ปลาปักเป้าน้ำจืด มีพิษที่จัดอยู่ใน กลุ่ม PSP (Paralytic Shellfish Poison) เมื่อได้รับพิษเข้าสู่ร่างกายพิษจะเข้าไปขัดขวางเยื่อหุ้มเซลล์ประสาทและเซลล์กล้ามเนื้อ จึงเกิดการยับยั้งการส่งกระแสประสาทและการส่งสัญญาณไฟฟ้าของเซลล์ต่าง ๆ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการชาและเกิดการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย และที่เป็นอันตรายที่สุดคือการเป็นอัมพาตของกล้ามเนื้อช่วยหายใจ ซึ่งส่งผลให้เกิดภาวการณ์หายใจล้มเหลวและเสียชีวิตได้

นอกจากนี้ ผู้จำหน่ายจะมีความผิดตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 264) พ.ศ.2545 เรื่อง การกำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายปลาปักเป้าทุกชนิด และอาหารที่มีเนื้อปลาปักเป้าเป็นส่วนผสม ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.2545 ผู้ที่ฝ่าฝืนจะมีความผิดตามมาตราที่ 50 แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 2 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img