“แบงก์ชาติ” แจงก.ม.ปราบอาชญากรรมออนไลน์สุดเข้มงวด เพิ่มโทษดุดันคนมีเอี่ยว “บัญชีม้า” พร้อมแท็กทีมหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลุยปราบปรามจริงจัง ขีดเส้นไม่เกินม.ย.66 ต้องทำให้เรียบร้อยเรื่องสแกนหน้ายืนยันตัวตนก่อนโอนเงินเกิน 5 หมื่นบาท
น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ปราบอาชญากรรมออนไลน์ เป็นมาตรการป้องกันและป้องปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของหลายหน่วยงานในการปราบปรามการทุจริตทางการเงินที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยกฎหมายดังกล่าวได้ให้อำนาจหลายหน่วยงานในการจัดการอย่างเบ็ดเสร็จ รวมถึงเพิ่มโทษที่รุนแรงมากขึ้นสำหรับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบัญชีม้า ทั้งการรับจ้างเปิดบัญชีม้า หรือให้เช่าบัญชี ขณะเดียวกัน ธปท. ได้มีการออกชุดมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงิน ซึ่งประกอบด้วย 3 มาตรการ ได้แก่ มาตรการป้องกัน โดยสถาบันการเงินจะงดการส่งลิงก์ทุกประเภทผ่าน sms อีเมล์ การใช้เทคโนโลยีเปรียบเทียบข้อมูลอัตลักษณ์ทางกายภาพของลูกค้า (Biometrics) เช่นการสแกนใบหน้า เป็นต้น
“สถาบันการเงินอยู่ระหว่างทยอยทำมาตรการ เช่น การยืนยันตัวตนด้วย Biometric ผ่านการใช้ใบหน้า ในการทำธุรกรรมโอนเงินเกิน 5 หมื่นบาทต่อครั้ง หรือเกิน 2 แสนบาทต่อวัน ซึ่งการกำหนดวงเงินดังกล่าว มาจากข้อมูลการโอนเงินเฉลี่ยในแต่ละวัน ซึ่งเรามองว่าเป็นระดับที่กำลังพอดี ไม่เยอะ และไม่น้อยเกินไป โดยเราต้องรักษาสมดุลระหว่างความเสี่ยงและความสะดวกสบายของประชาชนด้วย แต่หากประชาชนมีความกังวลว่า วงเงินดังกล่าวอาจจะสูงเกินไป ก็สามารถปรับวงเงินให้เหมาะสมกับตัวเองได้ โดยทุกธนาคารจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิ.ย.นี้” น.ส.ชญาวดี กล่าว
ส่วนความคืบหน้าแนวทางการอนุญาตให้จัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) น.ส.ชญาวดี กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำหลักเกณฑ์ โดยหลังจากมีการออกหลักเกณฑ์ ก็จะมีการเปิดรับสมัครผู้ที่สนใจเข้ามา โดยจะเปิดกว้างทั้งรายใหม่ ธนาคารรายเก่า และนอนแบงก์ เป็นต้น ซึ่งช่วงแรกให้ใบอนุญาตไม่เกิน 3 รายเป็นอย่างมาก
