วันเสาร์, พฤษภาคม 25, 2024
หน้าแรกNEWSนายกฯสั่งเร่งดับไฟป่านครนายก-ภาคเหนือ กำชับจนท.คุมเข้มเร่งหาตัว“คนผิด”ลงโทษ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

นายกฯสั่งเร่งดับไฟป่านครนายก-ภาคเหนือ กำชับจนท.คุมเข้มเร่งหาตัว“คนผิด”ลงโทษ

นายกฯ’สั่งเร่งดับไฟป่านครนายก-ภาคเหนือ ย้ำขอความร่วมมือปชช.หยุดลักลอบจุดไฟ ทำการเกษตร-หาของป่า   กำชับจนท.คุมเข้มเร่งหาตัวคนผิดลงโทษอย่างเด็ดขาด

เมื่อวันที่ 30 มี.ค.นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ติดตามสถานการณ์เหตุไฟป่าจังหวัดนครนายก เชียงใหม่ เชียงราย และพื้นที่ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด โดยนายกฯสั่งการกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธ์พืช ส่งทีมชุดดับไฟป่าเข้าปฏิบัติการเข้าดับไฟป่า พร้อมขอให้กองทัพสนับสนุนการปฏิบัติการ เพื่อดำเนินการดับไฟป่าที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง 

นายอนุชา กล่าวต่อว่า ไฟป่าที่เกิดขึ้นบริเวณเขาชะภู ตำบลพรหมณี อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก เมื่อคืนวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา ปภ. ได้นำรถสูบน้ำระยะไกลเข้าปฏิบัติการดับไฟป่า ร่วมกับทีมไฟป่าของกรมอุทยานแห่งชาติฯ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ร่วมบัญชาการดับไฟป่า ทั้งนี้ พื้นที่เกิดเหตุมีลักษณะเป็นเขาสูงชัน ทำให้ชุดดับไฟป่าของสถานีควบคุมไฟป่าไม่สามารถเข้าพื้นที่เพื่อดับเพลิงได้ อีกทั้งเพลิงยังได้ลุกลามไปยังเขาแหลมซึ่งอยู่ติดกัน โดยจังหวัดนครนายกได้ประสานขอรับการสนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยพร้อมเจ้าหน้าที่จากศูนย์ ปภ.เขต 3 ปราจีนบุรี และเฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย (KA-32) จาก ปภ. เพื่อดำเนินการดับไฟป่าแล้ว ซึ่งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 3 ปราจีนบุรี ได้ให้การสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย ประกอบด้วยรถสูบส่งน้ำระยะไกล รถดับไฟป่า รถส่องสว่าง รถบรรทุกน้ำ 10,000 ลิตร รถกู้ภัย รวม 5 คัน ออกปฏิบัติการดับไฟป่าในพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก ตลอดช่วงคืนที่ผ่านมาแล้วขณะที่การดับไฟป่าทางอากาศยานปีกหมุน หรือเฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย (KA-32) โดย ปภ.ร่วมกับกองทัพบก จะเข้าร่วมปฏิบัติการเพื่อดำเนินการดับไฟป่าในพื้นที่ในวันนี้ 

นายอนุชา กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือ ปภ. ร่วมกับกองทัพบก นำเฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย KA 32-01 ขึ้นบินปฏิบัติการดับไฟป่าในพื้นที่บริเวณ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้ทำการบินทิ้งน้ำดับไฟจำนวน 6 รอบ ปริมาณน้ำ 18,000 ลิตร ขณะที่จังหวัดเชียงรายได้ขอรับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย เพื่อปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าในพื้นที่ ซึ่ง ฮ.ปภ. KA 32-03 ได้เดินทางถึงจังหวัดเชียงรายแล้ว และจะเริ่มปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงรายในวันนี้ โดย ปภ.ร่วมกับกองทัพบก จะนำอากาศยานปีกหมุนทั้งสองลำพร้อมเจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง

“นายกฯติดตามสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นในทุกพื้นที่อย่างใกล้ชิดและมีความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กำชับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนร่วมกับกองทัพ ระดมกำลังลงพื้นที่เร่งดับไฟป่า กระชับพื้นที่ไม่ให้ขยายเป็นวงกว้างมากขึ้นกว่าเดิม พร้อมสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะส่วนท้องถิ่น จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าสอดส่องดูแลสถานการณ์การลักลอบจุดไฟเผาป่าเพื่อเตรียมพื้นที่ทำการเกษตร หาของป่าในช่วงเวลานี้ โดยปัญหาการลักลอบจุดไฟเพื่อเตรียมพื้นที่ทำการเกษตรและหาของป่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกปี ซึ่งจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ถ้าประชาชนไม่ให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการแก้ไขปัญหา พร้อมให้เจ้าหน้าที่คุมเข้มมาตรการทางกฎหมาย บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เร่งหาตัวผู้กระทำผิด มาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด” นายอนุชา กล่าว.

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img