‘ความเสี่ยงหลัก’เกิดจากกิจกรรมต่างๆ เป็นตัวกระตุ้นเกิดระบาดในแต่ละพื้นที่

“หมอธีระ” เชื่อจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงสัมพันธ์กับการตรวจที่ลดลงเช่นกัน ยันสถานการณ์ยังระบาดรุนแรง กระจายไปทั่ว ตอกย้ำเรื่อง “กล่องทราย” เกิดจากกิจกรรมต่างๆ เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการระบาดในพื้นที่มากขึ้น แนะวางแผนการเงิน-การใช้จ่ายให้ดีๆ

เมื่อวันที่ 2 ก.ย.64 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิเคราะห์แนวโน้มการระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat…ว่า สถานการณ์ทั่วโลก 2 กันยายน 2564…เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 672,147 คน รวมแล้วตอนนี้ 219,219,237 คน ตายเพิ่มอีก 10,331 คน ยอดตายรวม 4,543,553 คน, 5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุด ยังคงเป็นเช่นเดิมคือ อเมริกา อินเดีย สหราชอาณาจักร อิหร่าน และบราซิล, อเมริกา ติดเชื้อเพิ่ม 181,317 คน รวม 40,325,650 คน ตายเพิ่ม 1,469 คน ยอดเสียชีวิตรวม 659,872 คน อัตราตาย 1.6%, อินเดีย ติดเพิ่ม 45,971 คน รวม 32,856,863 คน ตายเพิ่ม 505 คน ยอดเสียชีวิตรวม 439,559 คน อัตราตาย 1.3%, บราซิล ติดเพิ่ม 26,348 คน รวม 20,804,215 คน ตายเพิ่ม 703 คน ยอดเสียชีวิตรวม 581,228 คน อัตราตาย 2.8%, รัสเซีย ติดเพิ่ม 18,368 คน รวม 6,937,333 คน ตายเพิ่ม 790 คน ยอดเสียชีวิตรวม 184,014 คน อัตราตาย 2.6%, สหราชอาณาจักร ติดเพิ่ม 35,693 คน ยอดรวม 6,825,074 คน ตายเพิ่ม 207 คน ยอดเสียชีวิตรวม 132,742 คน อัตราตาย 2%

อันดับ 6-10 เป็น ฝรั่งเศส ตุรกี อาร์เจนติน่า อิหร่าน และโคลอมเบีย ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่น แถบอเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกา เอเชีย หลายต่อหลายประเทศติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น หากรวมทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ พบว่ามีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 90.47 ของจำนวนติดเชื้อใหม่ทั้งหมดต่อวัน แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลักร้อยถึงหลักพัน แถบตะวันออกกลางส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน ยกเว้นอิหร่านติดเพิ่มหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และญี่ปุ่น ติดเพิ่มกันหลักหมื่น ส่วนเมียนมาร์ ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ ติดกันหลักพัน กัมพูชา ลาว และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกง และไต้หวัน ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

…ข้อมูลจากประเทศอิสราเอลชี้ให้เห็นชัดเจนว่า ขณะนี้มีจำนวนเคสติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาก หากพิจารณาตามหลักวิชาการจะพบว่าสอดคล้องกับช่วงเวลาประมาณ 6 เดือนหลังฉีดวัคซีน ซึ่งระดับภูมิคุ้มกันจะลดลง เพราะส่วนใหญ๋ฉีดกันไปครบตั้งแต่มีนาคม 2021 อย่างไรก็ตาม พบว่า ในกลุ่มอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปนั้น กลุ่มที่ฉีดวัคซีนครบโดสนั้นจะมีอัตราการป่วยรุนแรงน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนถึง 9 เท่า ส่วนในกลุ่มอายุน้อยกว่า 60 ปี วัคซีนก็ยังได้ผลดีในการลดอัตราป่วยรุนแรง เพราะกลุ่มที่ฉีดวัคซีนครบโดสมีอัตราป่วยรุนแรงน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ฉีด 2 เท่า ขณะที่อเมริกาก็มีข้อมูลที่ชี้ให้เห็นลักษณะที่คล้ายคลึงกัน

…สถานการณ์ของไทยเรานั้น ยืนยันว่าจำนวนการติดเชื้อที่รายงานประจำวันนั้น สัมพันธ์กับแนวโน้มการตรวจที่ลดลง ดังนั้นจึงต้องตระหนักว่า สถานการณ์การระบาดยังคงรุนแรง กระจายไปทั่ว และเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ธรรมชาติของโรคติดต่อนั้นไม่เปลี่ยนแปลง การติดการแพร่ได้นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยเสี่ยงหลักคือ การพบปะติดต่อกัน ใกล้ชิดกัน สัมผัสกัน ไม่ป้องกันตนเองอย่างดีพอ ตราบใดที่การระบาดแต่ละวันยังมีจำนวนสูงมากเช่นที่เป็นมา นโยบายและมาตรการต่างๆ และการปฏิบัติ ที่ส่งผลให้ปัจจัยเสี่ยงหลักเหล่านั้นเพิ่มขึ้น ก็จะเกิดผลลัพธ์ตามมาแบบเชื่อขนมกินได้ล่วงหน้าว่า การระบาดจะต้องทวีความรุนแรงมากขึ้น

ดังที่เห็นจากเรื่องกล่องทราย ที่เน้นย้ำหลายครั้งว่า ความเสี่ยงหลักมิได้มาจากเรื่องการนำเข้ามาจากต่างประเทศ แต่จะมาจากการที่คนมากขึ้น กิจการกิจกรรมต่างๆ มากขึ้นนั่นเอง ที่จะเป็นตัวกระตุ้นให้การระบาดที่มีอยู่เดิมในพื้นที่มีมากขึ้นและง่ายขึ้น เฉกเช่นเดียวกับเรื่องมาตรการปลดล็อคกิจการกิจกรรมต่างๆ ตั้งแต่ 1 กันยายน สิ่งที่ประชาชนอย่างพวกเราจะทำได้ตอนนี้คือ “ใส่ใจสุขภาพของตนเองและครอบครัว” ใส่หน้ากากนะครับ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนาม้ย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า สำคัญมาก

เตรียมตัว เตรียมงาน เตรียมสถานที่ เตรียมข้าวของเครื่องใช้จำเป็นสำหรับยามฉุกเฉิน รวมถึงอุปกรณ์ป้องกันต่างๆ เลี่ยงการกินดื่มในร้านอาหาร โรงอาหาร ศูนย์อาหาร ซื้อกลับจะปลอดภัยกว่า คอยสังเกตอาการตนเองและสมาชิกในครอบครัว หากมีอาการคล้ายหวัด ให้นึกถึงโควิดด้วยเสมอ รีบหาทางไปตรวจคัดกรองโรค และรับการดูแลรักษา

สิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่อยากเรียนคือ วางแผนการเงิน ค่าใช้จ่าย ให้ดี สถานการณ์เช่นนี้ยังเสี่ยงมากต่อการลงทุนต่างๆ และระมัดระวังมิจฉาชีพ ด้วยรักและห่วงใย