เจอ จ่าย จบไม่จริง! กมธ.ศาล สภาฯ บี้ “นายกฯ-คลัง” ช่วยปชช.ถูกประกันโควิดจ่ายช้า
วันที่ 7 ต.ค.64 ที่รัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณณะกมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา กมธ.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนพบว่ามีประชาชนได้ทำประกันโควิด แล้วถูกเอาเปรียบ เนื่องจากมีการรณรงค์ให้ทำประกันในวงเงินตั้งแต่ 300-3,000 บาท แต่เมื่อผู้รับประกันมีการตรวจพบเชื้อโควิดแล้ว กลับไม่มีการจ่ายเงินประกัน หรือจ่ายล่าช้า ซึ่งจากการสอบถามมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบถึง16 ล้านบัญชีกรมธรรม์ หรือ16 ล้านคนที่ขอรับประกัน แบ่งเป็น 8 บริษัทประกันภัย และบริษัทอื่นๆที่ทำประกันภัยโควิดอีก 28 บริษัท ซึ่งจากการสอบถามหน่วยงานด้านประกันภัย ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ได้รับการชี้แจงว่าได้มีการชดเชยไปแล้วจำนวน 19,300 ล้านบาท ขณะเดียวกันทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) ได้ชี้แจงยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ซึ่งตามหลักแล้วบริษัทที่ทำประกันเมื่อรู้ว่ามีผู้ที่ขอรับประกันติดโควิดต้องจ่ายเงินประกันภายใน15วัน หลังจากมีการตรวจพบเชื้อจากแล็ป
นายจิรายุ กล่าวต่อว่า เป็นการฉวยโอกาสที่บริษัทประกันต่างๆอาจคิดว่าสถานการณ์โควิดรอบล่าสุด รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเอาอยู่ เลยจัดโปรโมชั่นแบบติดปุ๊บจ่ายปั๊บ หรือเจอ จ่าย จบ แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน มีผู้ติดเชื้อมากขึ้นจึงไม่มีการจ่าย หรือจ่ายล่าช้า นอกจากนี้ทางคปภ. ยังชี้แจงว่า ด้วยสภาพบังคับทางกฎหมาย คปภ.ทำได้แค่ปรับเงินจากบริษัทประกันเท่านั้น และแนะนำให้ประชาชนที่เสียหายไปฟ้องแพ่งเอาเอง หรือนำเรื่องเข้าสู่อนุญาโตตุลาการของคปภ. กมธ.จึงขอเรียกร้องไปยังนายกฯ และรมว.คลัง ในฐานะกำกับดูแลด้านประกันภัย หามาตรการช่วยเหลือเยียวยา ควบคุมดูแล อย่าปล่อยให้ผู้เสียหายต้องไปฟ้องเอาเอง เพราะต้องวางค่ามัดจำศาล และเพิ่มภาระคปภ.ในการดำเนินการทางอนุญาโตตุลาการ ขอให้ประชาชนไตร่ตรอง ดูรายละเอียดต่างๆก่อนทำประกัน และระมัดระวังให้มากขึ้น ส่วนกรณีที่มีการพบว่ามีผู้อยากติดโควิดเพื่อเอาประกันนั้น ทางคปภ.ชี้แจงว่า มีจริง เพราะต้องการหยุดงาน14วัน และเอาเงินประกัน ซึ่งมีคงามผิดตามกฎหมาย แต่จากการตรวจสอบยังไม่มีการพิสูจน์ที่แน่ชัด
