วันศุกร์, พฤษภาคม 3, 2024
หน้าแรกNEWSกมธ.ป.ป.ช.สภาฯชี้ทอ.จัดซื้ออาวุธ 3 โครงการพบพิรุธ-ส่อทุจริต
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

กมธ.ป.ป.ช.สภาฯชี้ทอ.จัดซื้ออาวุธ 3 โครงการพบพิรุธ-ส่อทุจริต

กมธ.ป.ป.ช.สภาฯ สรุปจัดซื้อยุทโธปกรณ์ 3 โครงการพบพิรุธ-ส่อทุจริต เชื่อผู้บริหารสมคบคิดปกปิดข้อมูล จ่อส่ง 4 หน่วยงานระงับ พร้อมขู่ซักฟอก

วันที่ 14 พ.ย.64 น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติผิดมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร หรือป.ป.ช. เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของกองทัพอากาศ ได้แก่โครงการพัฒนาและปรับปรุงระบบป้องกันทางอากาศ ระยะที่ 7 (N-SOC  C2), โครงการพัฒนาป้องกันฐานที่ตั้งทางทหารของกองทัพอากาศ (GBAD) และโครงการจัดหาทดแทนวิทยุพื้นดิน-อากาศ มูลค่าเกือบ 3 พันล้านบาทว่า กมธ.ได้รวบรวมข้อเท็จจริงจากการให้ถ้อยคำของผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งพยานหลักฐานต่างๆ ครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างการทำรายงานสรุปผลการตรวจสอบเพื่อส่งไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กระทรวงกลาโหม กองทัพไทย กรมบัญชีกลาง และสำนักงบประมาณ เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ได้นำรายงานผลการตรวจสอบไปใช้ให้เป็นประโยชน์ หากเห็นว่ากระบวนการจัดหาในครั้งนี้ไม่ชอบ จะได้ระงับยับยั้งการจัดหาดังกล่าวที่ไม่เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายต่อไป

“ผมขอเรียกร้องให้ รมว.กลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหม และ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อสอบสวนเรื่องทั้งหมดเป็นการเฉพาะอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากผลการตรวจสอบของคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. ชี้ชัดว่าการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ทั้ง 3 โครงการ พบข้อพิรุธในการจัดหาหลายประการ และมีพฤติกรรมของการกระทำทุจริตประพฤติผิดมิชอบ เชื่อว่าเกิดจากการสมคบคิดของผู้บริหารระดับสูงหลายคน ซึ่งหากเรียกเพียงหน่วยปฏิบัติมาชี้แจง อาจไม่ได้รับทราบความจริงทั้งหมด และที่สำคัญอาจมีการปกปิดหรือบิดเบือนข้อมูล ซึ่งหากกองทัพไทยหรือกระทรวงกลาโหมปล่อยผ่านไปโดยไม่ยอมตรวจสอบให้ละเอียด ย่อมทำให้ผู้ลงนามอนุมัติมาตามลำดับชั้น โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้อย่างแน่นอน ซึ่งหากกระทรวงกลาโหมปล่อยปละละเลย ผมจะอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งต่อไป ซึ่งจะแตกต่างจากครั้งที่แล้ว เพราะคราวนี้จะมีใบเสร็จและรายนามของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเนื่องจากความผิดสำเร็จแล้ว”น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวต่อว่า กมธ.ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบการจัดหายุทโธปกรณ์ทั้ง 3 โครงการอย่างละเอียด พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญจากที่เคยมาชี้แจงกับสภาฯหลายประการ เป็นการเปลี่ยนตามอำเภอใจ ไม่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ต่างๆ ไม่เป็นไปตามหลักนิยม และไม่เป็นไปตามแผนการพัฒนากองทัพอากาศ ที่อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศแถลงนโยบายเอาไว้ แต่ที่สำคัญก็คือการละเลยความเห็นของฝ่ายกฎหมาย โดยผู้บริหารระดับสูงของ ท.อ. ไม่ยอมสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจงใจดำเนินการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์และสาระสำคัญของโครงการโดยพลการ ซึ่งขณะนี้เอกสารการขออนุมัติจัดซื้อในโครงการต่างๆได้ออกจาก ท.อ.ไปแล้ว จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากองทัพไทยและกระทรวงกลาโหม จะได้ใช้รายงานการตรวจสอบของกมธ.ป.ป.ช.ให้เป็นประโยชน์ และสั่งการให้คณะกรรมการที่ตั้งขึ้น ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด แต่ที่ง่ายที่สุดก็คือการสั่งการให้หน่วยปฏิบัติกลับไปแก้ไขและดำเนินกระบวนการจัดหาต่างๆ ให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่กำหนดต่อไป เพราะหากยังฝืนดำเนินการกันไปในลักษณะนี้ คงไม่พ้นคณะกรรมาธิการฯต้องเรียกผู้เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจในการจัดซื้อครั้งนี้มาให้ถ้อยคำกันอีก ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้เป็นเช่นนั้น

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img