“ติ๋ม ทีวีพูล”แฉเดือด “สมปอง” ยอมรับแตกหักเรื่องเงิน เป็นคนทะเยอทะยาน อยากรวยไว แต่อโหสิกรรมให้
เมื่อวันที่ 4 ก.พ.65 “ติ๋ม ทีวีพูล” หรือ พันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย แถลงด่วน ที่บ้านศกุณต์ไชย ลาดพร้าว 101 ประเด็น สมปอง นครไธสง ถอนตัวจากรายการ ถึงไหนถึงกัน ทางช่อง 5 ,รายการ มาหาพาสนุก ทางช่อง9 และรายการ โทรติดทิดตอบ ทางทีวีพูลออนไลน์ โดยทาง“ติ๋ม ทีวีพูล” ได่แถลงข่าวตัดขาดอดีต “พระมหาสมปอง” หรือ สมปอง นครไธสง (ทิดสมปอง) โดยระบุว่า ที่จริงแล้ว สมปอง เขาเดินมาหาพี่เอง เราไม่จำเป็นต้องไปเอาใครมาอยู่กับเรา เขามา พี่ไม่ได้หวังว่าจะมาช่วยอะไร เขาเป็นคนพูดธรรมะแล้วสนุก พี่ก็คิดว่าเราจะไปเดินสายธรรมะด้วยกัน มีคนถามพี่ว่า พี่เสียอะไรให้เขาบ้าง กลัวพี่จะถูกหลอก ตัวพี่เอง พี่หมดไปเกือบล้าน รีโนเวทบ้าน ทำใหม่หมด เขาบอกเขาไม่มีเสื้อผ้า พี่ก็จัดหาแบรนด์ดีให้ ให้เขาเลือกใส่ หมดไป แสนกว่าบาท พี่รีโนเวทบ้านอีก 7 แสน…สมปองเป็นคนทะเยอทะยาน อยากรวยเร็ว ตนก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้ คนทำธุรกิจจะรู้ว่าทุกอย่างต้องค่อยๆ เติบโต สมปองมีหนี้มา 10 ล้าน 9 แสน
และมีค่าใช้จ่ายการทำสวนยางพารากว่า 300 ไร่ของครอบครัวอีกเดือนละแสนกว่าบาทที่ต้องจ่าย ยอมรับว่าตอนรู้เรื่องหนี้สินครั้งแรกตกใจมาก
เพราะเป็นพระทำไมมีหนี้เยอะขนาดนั้น และไม่เข้าใจทำไมเค้าอยากรวยมาก เค้าไม่ฟังอะไรเลย เค้ามองแต่ว่าเรื่องเงินเป็นใหญ่ ทำให้ความคิดเค้าหน้ามืดปิดใจหมดเลย
ส่วนตัวอยากช่วยปลดหนี้ให้สมปองที่มีอยู่เกือบ 10 ล้าน ถึงขั้นเรียกประชุมทีมงานให้ทำรายการเพื่อหารายได้ จะทำอย่างไร ทำกี่รายการ ต้องมีรายได้เดือนละเท่าไหร่ จึงจะปลดหนี้ได้
ที่ผ่านมาค่าตัวรีวิวครึ่งชม.แสนห้า ชั่วโมงนึง 3 แสน ส่วนคิวจัดรายการที่ทางบริษัทให้ค่าตัวเค้า ยอมรับว่าจ่ายแพงกว่าดาราอีก ให้เงินเดือน 250,000 บาท ก็ถือว่าอยู่ได้แบบสบายๆ แล้ว แต่เค้าดันเอาตัวเงินนี้ไปเปรียบเทียบกับการรีวิวสินค้า
ยอมรับว่าจุดแตกหักคือเรื่องเงิน เงินเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับสมปอง ตัวเองวางตัวเหมือนแม่ ซัพพอร์ตให้ทุกอย่าง แต่เวลาบอกสอนอะไร ไม่ค่อยอยากฟัง เค้าเหมือนเด็กคนนึง ทุกอย่างอโหสิกรรมให้หมด
เมื่อวานสมปองประกาศถอนตัวจากรายการ แล้วมาขนของออกไปจากบ้านหมดเกลี้ยง ตัวเองตกใจและช็อกมาก สมปองไม่ได้มาบอก ไม่มาลาแม้แต่คำเดียว ยอมรับว่าเสียความรู้สึกมาก
ทั้งนี้ จะไม่หยุดทำรายการ เพราะลิขสิทธิ์เป็นของทีวีพูล ยืนยันแม้สมปองถอนตัว ไม่กระทบกับบริษัททีวีพูล แต่กระทบกับรายการที่ลูกชายทำ
ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นล้าน ก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของกฎหมาย แต่ถ้าสมปองมาเคลียร์เรื่องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นให้ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องฟ้องร้อง
แม้เจอเรื่องแบบนี้ แต่ส่วนตัวไม่ได้เข็ดกับการช่วยคน มันคงเป็นกรรม แต่ถือว่ากรรมครั้งนี้หมดเร็วมาก และถึงแม้ว่าสมปองจะมาขอโทษ หรืออยากกลับมา ก็ไม่เอาอีกแล้ว ตอนนี้ว่างเปล่ากับสมปองแล้ว จะไม่มีชื่อนี้ในสมองอีกต่อไป
สุดท้าย อยากฝากสมปองเรื่องการดื่ม อย่าดื่มหนัก เพราะเสียสุขภาพ เรื่องผู้หญิง อยากให้เกียรติผู้หญิง อย่าไปกอดคนนู้นคนนี้ เพราะดูไม่ดี
เคยบวชมาตั้ง 30 ปี และเรื่องการคบคนคบเพื่อน อย่าไปอยู่ในวังวนธุรกิจที่มีกลิ่นสีเทา ไม่ต้องรีบรวย เพราะจะพลาดตกบันได เดี๋ยวจะไม่ได้รวย แล้วมีคดีแทน
