สธ.หารือกทม.ร่วมวางแผนรับมือโควิด จัดโควต้ายาสำรองใช้ 10 วัน เดินหน้าจัดกิจกรรมหนังกลางแปลง ดนตรีในสวน เข้มหน้ากาก ตรวจ ATK หากพบความเสี่ยงพร้อมทบทวน
เมื่อวันที่ 18 ก.ค.65 ที่ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ภายหลังการประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 (ศปค.สธ.) ครั้งที่ 5/2565 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย พญ.วันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร และ นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ ร่วมกันแถลงข่าว
โดยนพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า ศปค.สธ.มีการประชุมครั้งสุดท้ายเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาเรื่องจากสถานการณ์โรคโควิด คลี่คลาย ประกอบกับเดือนมิ.ย. ศบค.ชุดใหญ่ได้ยกเลิกศบค. กทม.ทำให้ อนุกรรมการต่าง ๆ หมดวาระลงไป แต่เนื่องจากขณะนี้พบการติดเชื้อมากขึ้น โดยเกิน 50 % ของการติดเชื้ออยู่ในพื้นที่กทม.ดังนั้นวันนี้จึงมีการประชุมอีกครั้ง พร้อมทั้งเชิญกทม. เข้ามาร่วมหารือเพื่อวางแผนในการดูแลผู้ป่วยทั้งด้านการตรวจ รักษา ยา และวัคซีนด้วย ซึ่งแม้ว่าพื้นที่กทม.จะไม่มีรพ.ในสังกัดสธ.อยู่แต่ก็พร้อมให้การสนับสนุนตามที่มีการร้องขออย่างเต็มที่ ซึ่งวันนี้ได้มีการคลี่จำนวนเตียงแล้วพบว่ายังมีเพียงพอเพราะกว่า 98% นั้นเป็นผู้ป่วยสีเขียว
อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีการวางแผนร่วมกันว่าหากมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นระดับเท่าไหร่ จะมีแผนรองรับอย่างไร ทั้งแผน 1 แผน 2 ย้ำว่ากทม.เป็นเจ้าของพื้นที่ ส่วนสธ.เป็นหน่วยสนับสนุน เช่นยาตอนนี้มีคงคลัง 7 วัน ก็ต้องมาคุยกันเพื่อบริหารจัดการ และสั่งซื้อเพิ่มซึ่งก็ต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตาม หากไม่มีอาการก็ไม่จำเป็นต้องรับยา เพราะถ้าใช้โดยไม่จำเป็นเสี่ยงได้รับผลกระทบจากการใช้ยา และเสี่ยงดื้อยา
ด้านนพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดสธ. กล่าวว่า ขณะนี้มียาแรมดิสซีเวียร์ในสต็อกสำหรับทั้งประเทศ ประมาณ 20 กว่าวัน ยาฟาวิพิราเวียร์ โมลนูพิราเวียร์สำรอง 7-10 วัน หลังจากวันที่ 18 ก.ค.เป็นต้นไป จะทยอยเข้ามาวันละ 2 ล้านเม็ด ซึ่งผลิตโดยองค์การเภสัชกรรม อีกทั้งขณะนี้ครม.ได้อนุมัติงบประมาณเพิ่มแล้ว
พญ.วันทนีย์ กล่าวว่า ตอนนี้กทม.จะกลไกตามพ.ร.บ.โรคติดต่อเข้ามาบริหารจัดการ และจะเสนอข้อเพิ่มคณะกรรมการ 1 ชุดขึ้นมาทดแทน คณะกรรมการชุดต่างๆ ที่ถูกยกเลิกไป ซึ่งจะพิจารณาและเสนอในการประชุมครั้งหน้า ในสัปดาห์หน้า โดยในส่วนนี้ต้องขอให้ สธ. สนับสนุนนักวิชาการ และซับพอร์ตด้านอื่นๆ ด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ในส่วนของวัคซีนนั้นกทม.มีการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ไปแล้วกว่า 80 % แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีคนอยู่มาก ประชากรจากต่างจังหวัดเข้ามามาก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้สั่งให้มีการเพิ่มเติมบู๊สเตอร์โดส ศูนย์บริการสาธารณสุขเปิดให้บริการเพิ่มวันเสาร์ทั้งฉีดวัคซีนและแจกยา พร้อมจัดทีมฉีดวัคซีนเชิงรุกแก่ผู้สูงอายุติดเตียงในในชุมชน
ส่วนเรื่องยารักษาโรค ตอนนี้มีปริมาณการใช้ยาอยู่วันละประมาณ 1 แสนเม็ดต่อวัน มีสำรองอยู่ 7 วัน ซึ่งสธ.ส่งให้ตามที่ได้มีการนัดหมายส่ง แต่จะขอสธ.เพื่อสำรองเพิ่มเป็น 10 วัน พร้อมประสานรพ.เอกชน และร้านขายยาช่วยซับพอร์ตด้วย เพื่อช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้สะดวก ส่วนการประสานส่งต่อนั้น จะให้ศูนย์เอราวัณเป็นหน่วยงานประสานรพ.หลัก 6โซน ประชาชนสามารถโทรได้ที่ 1669 อย่างไรก็ตามเรายังมี CI 5 แห่ง รวม 320 เตียง และรพ.สนาม แต่คนกทม.ไม่ค่อยมาใช้บริการรพ.สนาม ทั้งนี้กรณีการครองเตียงตามแผนหากมีการครองเตียงเหลือง – แดงเกิน 80 % ต่อเนื่อง 2-3 วันก็จะมีการขยายเพิ่ม
“ส่วนการจัดกิจกรรมของ กทม จะเป็นความเสี่ยงหรือไม่ ต้องเรียนว่าเราดำเนินการตามคำสั่ง ศบค ฉบับ 46 ที่สามารถปรับมาตรการผ่อนคลายได้ สร้างบาลานซ์กิจกรรม เฝ้าระวังคุมเข้มและกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้น การจัดกิจกรรมเช่น หนังกลางแปลง ดนตรีในสวน จะมีมาตรการระดับหนึ่ง จากการติดตามยังไม่พบคลัสเตอร์ใหญ่ แต่หากมีความเสี่ยง เราก็พร้อมปรับลด หรืองด ส่วนตอนนี้จะมีการเข้มงวดขึ้นเรื่องของการสวมหน้ากากอนามัย หากใครไม่สวมมาก็จะแจกให้ ส่วนของร้านค้าต้องมีผลการตรวจ ATK เป็นลบด้วย ใครไม่มีก็จะมีการสว็อปให้” พญ.วันทนีย์ กล่าว
นพ.สุขสันต์ กล่าวว่า ขอความร่วมมือประชาชนหากไม่มีอาการ อาการน้อย สามารถติดต่อศูนย์บริการสาธารณสุขให้บ้าน หรือรพ.ตามสิทธิใกล้บ้าน หรือดาวน์โหลดแอพของสถานพยาบาลแต่ละแห่งได้ ส่วนอัตราการครองเตียงขณะนี้สีเหลือง – แดงในกทม.อยู่ที่ 47.8 % ทั้งนี้การประสานไปยังศูนย์เอราวัณนั้นมีเกณฑ์ชี้วัดได้รับการติดต่อและดูแลใน 1 ชั่วโมง ส่วนกรณีที่มีการเสียชีวิตที่บ้านนั้น ศูนย์เอราวัณไม่ได้รับการติดต่อเข้ามาเลย
