วันเสาร์, พฤษภาคม 4, 2024
หน้าแรกHighlight“บิ๊กแจ๊ส”ลั่นไม่เคยคิดตัดขาด“ทักษิณ” ใครมาปทุมฯต้อนรับทุกคน-ซัดคนขี้ฟ้อง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“บิ๊กแจ๊ส”ลั่นไม่เคยคิดตัดขาด“ทักษิณ” ใครมาปทุมฯต้อนรับทุกคน-ซัดคนขี้ฟ้อง

“บิ๊กแจ๊ส” ฟาดส.ส.ฟ้องไม่หมด ลั่นไม่มีในหัวตัดขาด “ทักษิณ” ยันคบมานานรู้ใจกัน ลั่นใครมาปทุมฯต้อนรับทุกคน ขอยืนข้าง ปชช.ทำให้จังหวัดเจริญ

วันที่ 5 มี.ค.2566 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า เนื่องจากการเมืองตอนนี้เริ่มรุนแรง และจะร่อนแรงเพิ่มขึ้นอีกพอยุบสภาก็มีเลือกตั้ง มีการแบ่งเขตและการต่อสู้กัน แต่ผลกระทบก็คือ คนที่ออกไปต่อสู้ในแต่ละพรรค กลายเป็นคนใกล้ชิดตนหมดเลย ซึ่งจะเห็นว่า อดีตรองนายกฯของตนก็ไปสมัครพรรคหนึ่ง อดีตที่ปรึกษาก็ไปสมัครอีกพรรคหนึ่ง แล้วน้องรักตน อย่าง “จ่ายุทธ” ก็ไปสมัครพรรคหนึ่ง และ สจ.ในทีมตน 3 คน คนหนึ่งไปสมัครพรรคเพื่อไทย คนหนึ่งไปสมัครภูมิใจไทย ส่วนอีกคนไปสมัครพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งทุกคนใกล้ชิดตนหมดเลย ก็คิดในแง่ดีว่า การแข่งขันก็ต้องว่าไปตามกติกา เราตั้งทีมคนรักปทุมขึ้นมา แสดงให้เห็นว่าทุกคนที่เคยอยู่ในทีมคนรักปทุมตั้งแต่ สจ. ที่ปรึกษา หรือท่านรองนายกฯ ต่างก็เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ ทำให้พรรคการเมืองจึงพยายามทาบทามพวกเขาไปลง เพราะคิดว่าศักยภาพเขาเพียงพอ เราก็ดีใจว่า เราเลือกคนไม่ผิด ที่มาร่วมทำงานเพื่อพัฒนาปทุมธานีให้เจริญ นี่คือเป้าหมาย แต่เมื่อออกไปแล้วแข่งขันกัน การให้สัมภาษณ์การพูดอะไร การแข่งขันมันสูง ตนก็ไม่คิดว่า จะออกมาในรู้แบบนี้ กระแสข่าวว่ามันสะบั้นกัน ซึ่งเรื่องแบบนี้ไม่เคยอยู่ในหัวเลย

“คนอย่างผมจะไปสะบั้นจะไม่รักพี่ษิณ เป็นไปไม่ได้ การผูกผันกับพี่ษิณ มีมาตั้งแต่ที่เรียนจนจบจากสามพรานมาด้วยกัน เป็นรุ่นพี่-รุ่นน้องกัน และก็ผูกผันกันมานาน แล้วเรื่องการเลือกพรรคต่างๆ พวกนี้มันเรื่องเล็ก ผู้สมัครคนนั้นคนนี้มาลงพรรคไหน ก็เป็นสิทธิของพรรคเขา เมื่อพรรคไม่เลือก เขาก็มีสิทธิที่จะไปพรรคอื่น ก็เป็นธรรมดาไม่ใช่เฉพาะในจังหวัดปทุมธานี แต่ในกลุ่มนี้กลายเป็นคนใกล้ชิดผมทั้งหมด พอจะเริ่มไปแข่งขัน ผมก็รู้ว่า มีคนไปฟ้องว่าผมไปขึ้นเวทีพรรคภูมิใจไทย ผมก็รู้ว่ามาจากใคร ที่ไปฟ้องท่านทักษิณ ว่าผมขึ้นเวทีภูมิใจไทย แต่เขาพูดไม่หมดไง เขาควรพูดให้หมด ถ้าคุณลูกผู้ชายจริง คุณจะไปฟ้องว่าผมขึ้นเวทีพรรคภูมิใจไทย คุณพูดใหม่หมดสิว่าเป็นงานอะไร คุณเป็น ส.ส.แล้ว คุณทำไมพูดไม่หมด เมื่อคุณมีคู่แข่งขึ้นมา คุณเริ่มหวั่นไหว แล้วคุณก็มาใส่ความกันแบบนี้มันไม่ใช่ เหตุในวันนั้นเป็นงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของ สจ.สมร แต่งอ่อน ซึ่งใน อ.ลาดหลุมแก้ว มี สจ.อยู่ 2 คน สจ.ชัยวัฒน์ อินทร์เลิศ ตอนนี้เป็นประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และ สจ.สมร แต่งอ่อน หรือ สจ.หริ่ง ก็เป็นสจ.วันนั้นเป็นวันคล้ายวันเกิด สจ.สมร เขาได้จัดเวที ผมเป็นนายก อบจ. พูดง่าย ๆ ก็เป็นหัวหน้าทีมเขา และเขาได้ให้ผมเป็นประธานในพิธีฯ แต่ตัวคุณไม่ไป คนอื่นเขาไปกันเยอะแยะ คุณก็ไปโจมตีไปใส่ว่าผมขึ้นเวทีพรรคภูมิใจไทย สจ.สมรไม่ใช่ภูมิใจเลย ผมเป็นนายกฯผมก็อิสระ แต่วันนี้ที่ผมขึ้นเวทีคนเยอะ แล้วในงานวันนั้น ผมจะไม่ขึ้นก็ไม่ได้ คนหลายพันคนมาร่วมงาน ผมได้ขึ้นไปอวยพรไม่เห็นจะเสียหาย แต่คุณก็ไปสร้างประเด็นขึ้นมา ผมก็พูดในภาพรวม แล้วการแข่งขันก็แข่งขันกันอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม เมื่อทุกคนเป็นคนใกล้ชิดผม อยากจะพูดว่าอย่าร้องเรียนกันได้มั้ย ในเมื่อทุกคนเคยทำงานร่มกันมาอย่าร้องเรียนกันได้มัย เมื่อคุณสู้แล้วก็สู้กันไปเลย แพ้คือแพ้ ชนะคือชนะ หลังจากนี้อย่าไปร้องเรียนกันให้เสียเวลา เมื่อมีข่าวออกไป กลัวว่าตัวเองสู้ไม่ได้ แล้วจะไปโวยวายทำไม นี่เป็นความรู้สึกผมนะ ขณะนี้อยู่ระหว่างให้ทีมทนายฟ้องที่เขียนข่าวให้ผมเสียหาย เป้าหมายของผม ผมต้องการให้ปทุมธานีเจริญ”พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ระบุ

นายกอบจ.ปทุมฯ กล่าวว่า ขณะเดียวกันเพราะโครงการเหล่านี้เกินความสามารถของ อบจ. ซึ่งเรามีงบ 1,000 กว่าล้าน แต่การแก้ไขปัญหาถนนหนทาง โรคระบาดเราก็ใช้งบเหล่านี้ เมื่อเราไปทำโครงการใหญ่ ก็ไม่มีทาง เพราะต้องใช้เงินเป็น 10,000 ล้าน เราจึงต้องพยายามให้ผ่านทุกขั้นตอน โดยเฉพาะ ครม. ตนต้องการให้รถไฟฟ้าโมโนเรลเกิดจากสายสีแดง ไปจนถึงสถานีสวนสัตว์คลองหก เพื่อรองรับสวนสัตว์ที่จะเปิดในปี 2570 จะเป็นสวนสัตว์แห่งประเทศไทยอยู่ที่ปทุมธานี การจราจรต้องพร้อม รถไฟฟ้าโมโนเรลต้องเกิด ตนต้องยืนอยู่กับประชาชนเป็นหลัก
ดังนั้นโครงการใหญ่ที่จะเกิดได้ ตนพูดกับน้องๆ ที่ไปพรรคต่างๆ ว่าคนที่อยู่เพื่อไทย พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ถ้าได้เป็น ส.ส. ต้องช่วยผลักดันโครงการต่างๆ หากใครได้ไปอยู่พรรคคุมกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ก็ช่วยผลักดันโครงการให้ผ่านให้ได้ เราได้คุยกับน้องๆ อย่างนี้เพราะทุกคนมีเจตนามาเพื่อช่วยพัฒนาปทุมธานีอยู่แล้ว ตอนนี้ก็สู้กันไป เมื่อเสร็จแล้วกลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม ทำจังหวัดปทุมธานีให้เจริญ ไม่ใช่ไปทะเลาะ เอาเป็นเอาตายเหมือนที่ผ่านมา ขนาด ส.ส.พรรคเดียวกันยังไม่ถูกกันแบบนี้ก็ไม่ใช่

“ส่วนใครที่มาในจังหวัดปทุมธานี ผมไปรับทุกคน อย่างท่าน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาในพื้นที่ปทุมธานี ผมก็ไปรับ เขามาตรวจน้ำท่วม ท่านพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย มาผมก็ไปรับ ท่านรัฐมนตรีชัยวุฒิ มา ผมก็ไปรับ ท่านอุ๋งอิ๋งมาเดินหาเสียง ผมก็เอาช่อดอกไม้ไปให้ ท่านเสรี มาหาเสียง ผมก็เอาช่อดอกไม้ไปให้ เป็นหน้าที่เรา ผมถือว่าใครก็ตามที่เป็นรัฐบาล ผมก็ต้องประสาน แต่ไม่มีการรับปากรับคำว่าต้องอย่างนั้นอย่างนี่ มีการพูดกันเองว่าถ้าได้มาก ผมต้องเป็นรัฐมนตรี ไม่ใช่เลย จำไว้เลยว่าถ้าเห็นผมเป็นรัฐมนตรีนะ พี่น้องเสื้อแดงมาประจานผมได้เลย ชีวิตนี้ผมไม่เอาแล้ว ผมจะอยู่ของผมแค่นี้ ถ้าปทุมไม่เจริญ ผมไม่ไปเด็ดขาด ปทุมธานีป่วยหนักมานานแล้ว ถ้าเราแก้ปัญหาโดยการมีรถไฟฟ้าโมโนเรลเข้ามาได้ การยกระดับคันกั้นน้ำริมฝั่งเจ้าพระยาให้ยกขึ้นตลอดแนวให้น้ำผ่านปทุมธานีโดยที่ไม่ล้น 2 ฝั่ง เรามีคันกั้นน้ำถาวร พี่น้องชาวปทุมธานีก็จะไม่ต้องมาหวาดระแวงว่าจะต้องขนของหรือไม่น้ำจะท่วมหรือเปล่า แล้วที่ผมพูดเสมอคือ ปทุมธานีต้องมีสนามกีฬา อบจ.”พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าว

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวอีกว่า “ผมไม่เคยที่จะลบหลู่พี่ษิณแม้แต่นิดเดียว ผมยังเคารพรักพี่เขาเหมือนเดิม อย่างคำพูดนักเรียนนายร้อยตำรวจเรา ยศถาบรรดาศักดิ์มันตามกันทัน แต่รุ่นพี่รุ่นน้อง มันตามกันไม่ทัน รุ่นน้องคือรุ่นน้อง รุ่นพี่คือรุ่นพี่ คนที่ไม่รู้จริงแล้วคุณไปเขียนข่าว คุณเป็นนักข่าว เป็นสื่อมวลชนเป็นกระจกเงาสะท้อนความจริง เมื่อคุณไม่สะท้อนความจริง แต่สะท้อนมโนความคิดของคุณ ผมว่าแบบนี้ใช้ไม่ใช่นักข่าว ผมจึงให้รวบรวมเอกสารทั้งหมดที่ว่า สะบั้นกับทักษิณ หากเข้าข่าย ผมฟ้องแน่นอน”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img