“อมรัตน์” ซัด กกต.แก้ระเบียบร้องส่งเดช จี้ลงโทษนักร้อง เหตุจุดชนวนรปห.เงียบ เหน็บใช้เอไอ-อำนาจเหนือการเลือกตั้งหรือไม่ มั่นใจคนเป็นล้านลงถนนทวงเสียงคืนวันเลือกนายกฯ ลั่นไม่ใช่กดดัน ปูดคนวงในกระซิบรับรองส.ส.27 มิ.ย.
วันที่ 11 มิ.ย.2566 นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรค ก.ก.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายทะเบียนพรรคการเมือง สั่งยุติเรื่อง กรณีการยื่นร้องขอให้กกต.เสนอเรื่องพร้อมความเห็นให้ ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคก.ก.ตามมาตรา 92 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เนื่องจากเห็นว่าไม่มีมูล จำนวน 4 คำร้อง ว่า ขอยกตัวอย่างว่าถ้ามีการไปแจ้งความก็อาจจะมีเรื่องเเจ้งความเท็จ แต่การไปร้ององค์กรอิสระ มันไม่มีข้อหา เหมือนไม่มีข้อจำกัดหากต่อมาตรวจพบว่ามีเจตนาไม่ดี ก็ไม่มีโทษ หรือไม่ น่าจะต้องต้องมีการปรับปรุงเกี่ยวกับระเบียบองค์กรอิสระ ต่างๆ รวมถึงกกต. หรือไม่ เพราะเมื่อไม่มีโทษ ณ วันนี้เลยร้องกันใหญ่ วันหนึ่งจะไปร้องกันเช้า สาย บ่าย เย็น ร้องกี่เรื่องก็ได้เป็นข้อเสนอแนะของสังคมด้วย สำหรับความหงุดหงิดรำคาญ นักร้องไม่กี่คน ทำความเดือดร้อนให้คนทั้งหลายสิบล้านในประเทศ เหมือนยุงรำคาญนึกออก หรือไม่ ยืนยันว่า ในส่วนตน รู้ว่า 112 เป็นกฏหมายอาญา ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายได้ เราไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์พระมหากษัตริย์ ในรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้มีบอกนะว่า ห้ามวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายมาตราไหนแล้วมันจะผิดตรงไหน ผิดได้อย่างไร แล้วนักร้องก็ไปร้องทั้งที่สภาฯ ตนโดนไปยื่นเรื่องร้องจริยธรรมตั้งหลายสิบเรื่อง แต่สุดท้าย คณะกรรมการจริยธรรมของสภาฯ ตีตกหมดเรื่อง 112 นั้นอยากให้ย้ำไปเลยว่าสภาที่มีการร้องเกือบ 40 เรื่องสภาก็ไม่ได้รับเรื่องนะเยอะที่สุดเลยในสภาแล้วก็ถูกตีตกก่อนปิดประชุมสภาประมาณปลายปีที่แล้วสภาก็ออกมาบอกว่าที่มีการร้องจริยธรรมต้นเรื่อง 112
เมื่อถามถึงข้อเสนอแก้ระเบียบต่างๆเพื่อไม่ให้มีการร้องส่งเดช นางอัมรัตน์ กล่าวว่า เมื่อวันก่อนตนไปออกรายการหนึ่ง ได้คุยกับนายปริญญา เทวานฤมิตรกุล ผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อาจารย์เรื่องนี้ว่า ตนบอกว่า กกต.เป็นองค์กรอิสระ แต่ไม่ควรเป็นอิสระจากการถูกตรวจสอบจากสังคมถูก หรือไม่ เป็นองค์กรอิสระ ที่อิสระจากการครอบงำของฝ่ายบริหารก็จริง แต่มันไม่ควรจะเป็นอิสระลอยตัวเหนือความรับผิดชอบทางสังคมเรื่องพวกนี้กกต.สามารถแก้ระเบียบภายใน กกต.เองได้ โดยสภาฯ หรือ ส.ส.ไม่สามารถไปก้าวก่าย สั่งกกต.ไม่ได้ว่าต้องแก้ระเบียบกันอย่างไร จะต้องออกระเบียบออกมานะว่า พวกนักร้องที่ร้องมั่วๆ ต้องมีความผิดหรือไม่ มันก็เป็นเรื่องของจิตสำนึก กกต.เอง ต้องเห็นแล้วว่านักร้องพวกนี้ทำความเดือดร้อนให้สังคมอย่างไร
นางอมรัตน์ กล่าวว่า กระบวนการนิติสงครามมัน จะเริ่มจากแค่คน 10 กว่าคน สามารถทำลายระบบเลือกตั้งได้เลย เริ่มต้นแค่มีนักร้องเจ้าประจำ แล้วทำความขัดแย้งทางการเมืองให้กลายเป็นคดีความ พอเป็นคดีความขึ้นมาก็ส่งเรื่องไปยังศาล ซึ่งศาลอาจจะรับหรือไม่รับ แต่อาจเป็นกระบวนการที่ทำลายพรรคการเมืองง่ายไป หรือไม่ เพราะคน26ล้านคน เลือกฝั่งประชาธิปไตยได้ที่นั่งมา 70% ฝั่งอำนาจเดิมได้ 30% เอง แล้วจะใช้แค่ กระบวนการนักร้อง กับคนอีกไม่กี่คน ที่อาจจะเกิดการยุบพรรคและตัดสิทธิ์ทางการเมือง หรือไม่ แบบนี้คือนิติสงคราม เอากฎหมายเป็นเครื่องมือ หรือไม่ คิดว่า มันไม่มีการรัฐประหารในทางกายภาพแล้ว ไอ้แบบรถถังไปยึดสถานีวิทยุโทรทัศน์มันไม่มีแล้ว
เมื่อถามว่า แบบนี้คือการรัฐประหารเงียบหรือ นางอมรัตน์ กล่าวว่า ใช่ มันคือการรัฐประหาร อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันรัฐประหารผ่านกลไกนักร้อง ผ่านกลไกลทางนิติสงคราม ซึ่งเหมือนเป็นการยึดอำนาจโดยอ้างกฎหมาย แล้วก็ดูดี ดูชอบธรรม ดูทางกกต.เปลี่ยนสโลแกนตัดคำว่าโปร่งใสออก แล้วเปลี่ยนเป็นว่า ทำตามกฏหมาย ใช้คำว่าอาจจะนะอาจจะเป็นกฎหมายที่ฉ้อฉล แล้วคุณ ก็ไปเอาตัวบทบท เวิร์ดดิ้งฎหมายที่มันอาจจะฉ้อฉลหรือไม่ มาตีความ ถ้าอย่างนี้ก็เอาเอไอมาตัดสินสิ มันไม่ต้องใช้ดุลพินิจของความเป็นคนจริงหรือไม่ ถ้าเอาตามตัวบทกฎหมายหมด ก็ใช้เอไอไปเลยสิ ที่เขาใช้มนุษย์ก็เพราะว่ามันต้องใช้ดุลยพินิจที่ถูกต้องของมนุษย์ด้วย แล้วคุณก็ไปอ้างว่าจะต้องทำตามกฏหมายแต่หากกฎหมายนั้นเป็นกฎหมายที่จะต้องมีการแก้ไขล่ะ ใช่หรือไม่
เมื่อถามถึงกรณีนายอานนท์ นำภา นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนและแกนนำราษฎร เกรงว่า หากนิติสงครามเล่นงานนายพิธา อาจจะเกิดการชุมนุมแบบออร์แกนิก เป็นแสน เป็นล้าน แบบที่ไม่ต้องมีแกนนำ กังวลความวุ่นวายหรือไม่ นางอมรัตน์ กล่าวว่า ตนไม่อยากพูดแล้ว ไปตีความว่าเป็นการข่มขู่ว่าอาจเกิดการลงถนน แต่เชื่อว่ารอบนี้มันจะไม่เหมือนเดิม โหวตเตอร์จะออกมาปกป้องสิทธิ์และเสียงตัวเอง ที่แสดงออกผ่านคูหาเลือกตั้งอย่างแน่นอน แต่ไม่อยากจะพูดว่าอุ้ย คนจะลงถนนเป็นแสนเป็นล้านคน ไปพูดอย่างนั้นมันดูเหมือนกับเราไปขู่ เราไม่มีสิทธิ์จะไปขู่ แต่ว่าในใจลึกๆเราคิดว่ารอบนี้มันไม่เหมือนตอนที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โดนหรอก หลังอนาคตใหม่โดน ปี 2563 เกิดม็อบเยาวชนเบ่งบาน เกิดการตื่นรู้ในสังคมจนแปลผลออกมาเป็นคะแนนเลือกตั้งอย่างที่เห็นมาแล้ว มันก็จะต้องไม่เหมือนเดิม คุณไม่เหลือต้นทุนอะไรแล้ว มันก็เกิดความสับสนอลหม่านแน่นอนในสังคมแต่ว่ามันจะออกมาในรูปแบบไหนเท่านั้นเองเราก็ ไม่สามารถไปพูดไปขู่หรอกแต่จริงๆมันก็เป็นแบบที่นายอานนท์พูดนั่นแหละ
“คือทั้งหมดทั้งมวลนี้จะต้องถามคำถามเดียว ว่าใครมีอำนาจสูงสุดตัวจริงกันแน่ มันมีอำนาจเหนือการเลือกตั้งหรือไม่ เป็นกระบวนการที่มันถูกสร้างสถานการณ์มาทั้งนั้นหรือไม่ มันไม่ใช่เรื่องธรรมชาติเป็นเรื่องที่เกินจากสามัญสำนึก ของคนทั่วไป ที่พิสูจน์มาแล้วหลายครั้งหลายครา ใช่หรือไม่” นางอมรัตน์ กล่าว
นางอมรัตน์ กล่าวต่อว่า แหล่งข่าววงในจากรัฐสภาเเอบกระซิบตนว่า ทางกกต.ได้ส่งสัญญาณมาที่สภาฯแล้ว ว่าต้องรับรอง ส.ส.ภายในวันที่ 27 มิ.ย. เพราะว่า วันที่ 28 มิ.ย. จะมีกกต.หนึ่งคน ครบวาระดำรงตำแหน่ง โดยต้องมีการให้คนที่กำลังจะหมดวาระร่วมเซ็นต์รับรองส.ส.ด้วย ในขั้นตอนก็คือ พอเซ็นต์รับรองส.ส.แล้ว สภาฯ ก็จะต้องจัดประชุมภายใน 15 วันหลังจากที่กกต.เซ็นต์รับรองส.ส. ตนก็เลยถามไปว่า อย่างนี้แล้วสภาฯ จะจัดปฏิญาณตน ส.ส.ประมาณเมื่อไหร่ เขาก็บอกจะจัดประมาณวันที่ 10 ก.ค. และพอหลังจากส.ส.ปฏิญาณตนแล้ว ก็จะต้องเรียกประชุมนัดแรกเพื่อเลือกประธานสภาฯ ถัดจากวันที่ 10 ก.ค.ไปอีกวันสองวัน
