วันศุกร์, พฤษภาคม 10, 2024
หน้าแรกNEWS“เอกนัฏ”จี้แคนดิเดตนายกฯต้องแสดงจุดยืนแก้ม.112 ให้ชัดเจน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“เอกนัฏ”จี้แคนดิเดตนายกฯต้องแสดงจุดยืนแก้ม.112 ให้ชัดเจน

“เอกนัฏ”ย้ำจุดยืน “รวมไทยสร้างชาติ” ยังยึดมั่นในอุดมการณ์เดิมไม่เปลี่ยนแปลงโหวตไปในแนวทางเดียวกันทั้งพรรค จี้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีต้องแสดงจุดยืนในเรื่องม.112 ให้ชัดเจน ยันยังไม่มีการเจรจาจัดตั้งรัฐบาล

เมื่อวันที่ 2 ส.ค.66 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังพรรคเพื่อไทย แถลงขอถอนตัวจาก 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยแยกทางจากพรรคก้าวไกล เหตุไม่ถอย ม.112 ว่า พรรครวมไทยสร้างชาติยังมีจุดยืนเดิม โดยต้องดูไปตามขั้นตอน อันดับแรกคือการโหวตนายกรัฐมนตรี พรรคชัดเจนว่าหากมีพรรคก้าวไกลและการแก้ไขมาตรา 112 ก็ไม่สามารถโหวตให้ได้ แต่หากหลุดจากตรงนี้ไปจะดำเนินต่อไปได้หรือไม่ ตอนนี้ยังคงไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเพราะเพื่อไทยเพิ่งเสร็จสิ้นการแถลงข่าว

ทั้งนี้ คงจะต้องมีเนื้อหาสาระมากกว่านี้คิดว่าคงไม่ง่าย ส่วนที่จะมีการแถลงจัดตั้งรัฐบาลในวันที่ 3 ส.ค.นั้น ขณะนี้ก็ยังไม่ทราบ และยังไม่ได้รับการติดต่อจากพรรคเพื่อไทย

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองคุณสมบัตินายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยอย่างไรบ้าง นายเอกนัฏ กล่าวว่า การโหวตนายกฯ ทั้ง 2 ครั้งติดที่มาตรา 112 โดยครั้งที่ 3 คิดว่าแคนดิเดตนายกฯ ก็ต้องประกาศให้ชัด ต้องมีการอธิบายและหารือกันในรัฐสภา จากฝั่งสว. และสส. คิดว่าประเด็นมาตรา 112 ต้องมีการชี้แจงก่อนที่จะโหวตนายกฯ ซึ่งถือเป็นข้อแรก และหากประกาศชัดแล้วว่าไม่เดินหน้าแก้ไข รวมถึงไม่เป็นวาระในรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล ก็จะเริ่มสามารถพูดคุยกันได้ แต่ส่วนจะร่วมด้วยหรือไม่ร่วมนั้นจะมีการพูดคุยกันก่อน เพราะอาจจะมีรายละเอียดหลายเรื่องก็ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถึงการพูดถึงปัญหา 2 ลุงคือพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐจะมีการแก้ปัญหาร่วมกันอย่างไร นายเอกนัฏ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องแก้ปัญหาอะไร เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติไม่ได้ติดใจว่าจะต้องไปทำงานในฐานะรัฐบาล และไม่ติดใจหากจะต้องเป็นฝ่ายค้าน สามารถทำหน้าที่ได้ เพียงแต่จะอยู่ตรงไหนต้องรักษาจุดยืน ส่วนการพูดถึงไม่เอาลุงนั้น สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ลาออกไปแล้วจึงไม่อยากให้พูดถึงอีก อยากให้มองไปที่อนาคตดีกว่า อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุด หากจมอยู่กับอดีตก็ไม่มีอนาคต

เมื่อถามว่า หากต้องไปทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทย จะทำความเข้าใจกับมวลชนอย่างไร นายเอกนัฏ กล่าวว่า การรักษาจุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แม้จะเป็นพรรคที่มี 36 เสียงแต่จุดยืนชัดเจน พรรคมี 36 เสียงมีผลต่อการตั้งรัฐบาลยากอยู่แล้วเป็นที่เข้าใจได้ ทั้งนี้ตนในฐานะเลขาธิการพรรค ก็ยืนยันมาตลอดว่าไม่ได้ติดใจว่าจะต้องเข้าไปทำงานในฐานะใด เพราะไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนสามารถทำงานได้อย่างดีที่สุดอยู่แล้ว ในฐานะของ สส.อยู่ในสภาฯ ทุกคนก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ นอกสภาฯ ยังมีงานอื่นที่จะต้องทำไม่ว่าจะเป็นการงานในพื้นที่ของ สส.หรือเรื่องของพัฒนาพรรค ปรับปรุงการบริหารจัดการพรรคให้งานด้านการเมืองมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคจะให้เป็นการฟรีโหวตหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า เนื่องจากตอนนี้ยังไม่มีข้อมูล รวมถึง เงื่อนไขต่าง ๆ มากนัก ดังนั้นจึงจะต้องหารือกันในพรรคก่อนว่าจะเอาอย่างไร ทั้งเรื่องของการโหวต หรือ เงื่อนไขต่าง ๆ คิดว่าในเวลานี้ข้อมูลยังไม่พอในการตัดสินใจ อย่างไรก็ตามส่วนตัวของตนประกาศในจุดยืนเดิมว่า ยังยึดมั่นในอุดมการณ์ ตั้งแต่โหวตมาวันแรกถึงวันนี้ชัดเสมอว่า เอาหรือไม่เอาอะไร แต่สำหรับพรรคจำเป็นต้องมีทิศทางที่ชัดเจนว่าจะไปทางไหน

“สิ่งสำคัญตอนนี้คือ อยากจะขอความชัดเจนเรื่อง ม.112 จะแก้หรือไม่แก้ ถ้าไม่แก้ก็ขอให้ประกาศให้ชัดโดยแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีด้วย จะได้ชัดเจนสำหรับทุกคนในการตัดสินใจ” เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img