วันศุกร์, พฤษภาคม 3, 2024
หน้าแรกNEWS"กมธ.การเมือง"รับเรื่องสอบ "เศรษฐา" เลี่ยงภาษีแล้ว ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“กมธ.การเมือง”รับเรื่องสอบ “เศรษฐา” เลี่ยงภาษีแล้ว ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

“กมธ.พัฒนาการเมืองฯ” รับเรื่อง “เศรษฐา” ไว้ตรวจสอบแล้ว จ่อขอเอกสารจากกรมที่ดิน ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย พร้อมเร่งสรุปก่อนโหวตนายกฯ ห่วงม็อบเตรียมจัดสัมมนา 1 ก.ย.นี้ ระดมความคิดเห็นทุกฝ่ายก่อนบานปลาย

วันที่ 8 ส.ค.2566 เวลา 12.45 น. ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ว่า ทางคณะกรรมาธิการรับเรื่องที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นให้ตรวจสอบคุณสมบัติ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยไว้พิจารณา เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมือง และบุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ ซึ่งทางกมธ.ฯได้ทำหนังสือขอเอกสารที่เกี่ยวข้อง ทั้งโฉนดที่ดิน สัญญาซื้อขาย หลักฐานการโอนที่ดิน เอกสารคนซื้อคนขาย ไปที่กรมที่ดิน และบุคคลที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากทางแสนสิริอ้างว่าทำถูกต้อง กมธ.ฯก็จะดูข้อโต้แย้งด้วย โดยจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย โดยกรรมาธิการจะพยายามเร่งให้เสร็จ และจบให้ทุกอย่างกระจ่างก่อนเลือกนายกฯ เพื่อที่จะเป็นข้อมูลก่อนตัดสินใจว่าคนจะเป็นนายกฯต้องมีความชัดเจนว่าต้องซื่อสัตย์ เป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่าย ไม่มีข้อด่างพร้อย แต่ถ้าสุดท้ายแล้วกมธ.ฯ พิจารณาไม่เสร็จ ก็ไม่เกี่ยวกับการเลื่อนโหวตนายกฯ เพราะการกำหนดวันประชุมรัฐสภาเป็นเรื่องของประธานฯ

เมื่อถามว่า หากพบว่าไม่ผิดจะโหวตให้หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ถ้าไม่ผิดก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องปฏิเสธ เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยควรเปลี่ยนตัวแคนดิเดตนายกฯหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า อยู่ที่พรรคเพื่อไทยจะตัดสินใจเอง ซึ่งเปลี่ยนชื่อได้จนถึงเวลาที่จะขอเสียงในที่ประชุม พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อไว้ 3 คน โอกาสก็เกิดขึ้นได้หมด

เมื่อถามว่า กมธ.ฯได้ประเมินกรณีที่พรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย แถลงจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ที่ประชุมมีการประเมินกัน เพราะการตั้งรัฐบาลครั้งนี้เป็นปรากฏการณ์ ว่าแต่ละพรรคนำคะแนนที่ได้มายันกันไปมา ไม่มีคะแนนเด็ดขาดจริงๆ การเลือกคนมาเป็นนายกฯไม่ง่าย เพราะมีเงื่อนไขข้อรังเกียจของแต่ละพรรค หรือแม้แต่การนำเสนอนโยบาย คุณสมบัติความเหมาะสมที่จะเป็นนายกฯ จึงเป็นความยากในการได้มาซึ่งนายกฯ แต่ก็คาดหวังให้ลุล่วงไป ซึ่งขึ้นอยู่กับพรรคการเมืองว่าคะแนนเสียงที่จะได้รับจะมาจากทางใดบ้าง เพราะไม่ใช่เฉพาะสส. แต่สว.ก็เป็นคะแนนสำคัญด้วย แต่ละพรรคต้องกำหนดทิศทางให้ดีจะได้ราบรื่น อย่าคาเดาคะแนนเสียง แต่ควรเป็นคะแนนเสียงอย่างแท้จริง การเสนอนายกฯจะไม่ขัดแย้ง และเดินไปได้โดยเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย

เมื่อถามว่า กมธ.ฯประเมินสถานการณ์การเมืองด้วยหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า มีการวิเคราะห์สถานการที่เกิดขึ้นว่าแต่ละพรรคต้องทำความเข้าใจมวลชนให้ดี เพราะถ้าออกมาหลายฝ่ายก็จะไม่สงบ ใครสนิทกับใครให้ไปทำความเข้าใจพูดคุยกัน เพื่อลดสถานการณ์ ที่สำคัญควรยอมรับการตัดสินใจของพรรคการเมือง ถ้ายังกดดัน เอามวลชนไปเรียกร้องก็ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ยอมรับเสียงประชาชนแบบที่พูดกัน ฉะนั้น ต้องยอมรับการรวมเสียงแต่ละพรรรค ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะยุ่ง

“กมธ.ฯเห็นถึงปัญหาสถานการณ์ปรากฎในปัจจุบัน ที่มีการแสดงออกของกลุ่มคนเชิงก้าวร้าวรุนแรง โดยไม่มีใครแก้ปัญหารับผิดชอบ กมธ.ฯจึงจัดสัมมนาในวันที่ 1 ก.ย.นี้ ที่รัฐสภา โดยจะเชิญฝ่ายเกี่ยวข้องมาเสนอความเห็น เช่น ตัวแทนรัฐบาล ศาลยุติธรรม อัยการสูงสุด ตำรวจ นักวิชาการ สื่อมวลชน ตัวแทนพรรคการเมือง และผู้ชุมนุม เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาว่าทำอย่างไรจะลดปัญหาการกระทำรุนแรงก้าวร้าว โดยให้ความสำคัญเรื่องทำความเข้าใจเป็นอันดับแรก รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายที่จริงจัง ไม่เช่นนั้นจะเกิดความไม่เคารพคนอื่น ไม่เกรงกลัวกฎหมาย บ้านเมืองตอนนี้ต้องการเจ้าภาพเพื่อมารับผิดชอบในการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง” นายเสรี กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img