วันเสาร์, พฤษภาคม 4, 2024
หน้าแรกNEWS"เค สามถุยส์" กัดไม่ปล่อยไล่บี้ เอาผิด ‘"อมรัตน์" อย่าปัดสวะแม้ลาออกจาก "ก้าวไกล"
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“เค สามถุยส์” กัดไม่ปล่อยไล่บี้ เอาผิด ‘”อมรัตน์” อย่าปัดสวะแม้ลาออกจาก “ก้าวไกล”

“เค สามถุยส์” กัดไม่ปล่อยไล่บี้ “พิเชษฐ์” สอบจริยธรรมเอาผิด ‘”อมรัตน์” ปมบังคับขู่เข็ญเอาข้อมูลนั่งที่ปรึกษา “รองอ๋อง” อย่าปัดสวะแม้ลาออกจาก “ก้าวไกล”

วันที่ 19 ต.ค.2566 ที่รัฐสภา นายนิยม นพรัตน์ หรือ “เค สามถุยส์” เข้ายื่นหนังสือต่อนายพิเชษฐื เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฏรคนที่ 2 เพื่อขอความเป็นธรรม ในการตรวจสอบจริยธรรมของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1

โดยนายนิยม กล่าวว่า เนื่องจากนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุลที่ปรึกษาของรองประธานสภาฯ คนที่ 1 มีพฤติกรรมคุกคาม ข่มขู่ประชาชน เนื่องจากเราได้เรียกร้องในเรื่องนี้ไปกว่าหนึ่งเดือนแล้ว แต่ยังไม่มีความชัดเจนจากพรรคก้าวไกลว่า จะลงโทษ หรือจะแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งตนได้นำหลักฐาน และรายชื่อของบุคคลที่กระทำการดังกล่าวมาส่งให้กับทางรัฐสภาและกรรมาธิการ เนื่องจากมีพฤติกรรมของข้าราชการ หรือพนักงานราชการ ในการนำชื่อ ที่อยู่ ข้อมูลส่วนตัว ออกมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ ซึ่งเป็นข้อมูลจากทะเบียนราษฎร แสดงว่ามีพฤติกรรมของข้าราชการ หรือพนักงานราชการ และไม่ทราบว่า สส. ใช้ตำแหน่งอะไร ประพฤติมิชอบหรือไม่ หรือใช้อำนาจบังคับขู่เข็ญในการบังคับเอาข้อมูลหรือไม่

ทั้งนี้ การที่ตนต้องการให้ตรวจสอบเรื่องจริยธรรมของพรรคก้าวไกล เนื่องจากเหตุการณ์นี้เกิดตั้งแต่ตอนที่นายปดิพัทธ์ยังอยู่พรรคก้าวไกล รวมถึงกรณีที่ที่ปรึกษาของรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ได้เดินทางประเทศเยอรมันนี พร้อมกับสส. ของพรรคก้าวไกล จึงมีคำถามว่าไปในตำแหน่งหรือฐานะอะไร เพราะบุคคลนั้นได้ออกมาระบุเองว่า ลาออกจากการเป็นที่ปรึกษาแล้ว

“เนื่องจากเขาเป็นข้าราชการทางการเมือง คุกคามประชาชน เราปล่อยคนเหล่านี้ไว้ไม่ได้ ต้องมีการลงโทษอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่งั้นจะเป็นเยี่ยงต่อไปในอนาคต ถ้าสส. หรือนักการเมือง มีพฤติกรรมไปเอาทะเบียนราษฎรของประชาชนมาโพสต์ให้เกิดการล่าแม่มด แบบนี้ประชาชนจะกล้าวิพากษ์วิจารณ์นักการเมืองหรือไม่ อย่างไร” นายนิยม กล่าว

ด้านนายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ถ้าเป็นการร้องเรียนบุคคลให้เจาะจงไปที่ตัวบุคคล ซึ่งนายปดิพัทธ์ก็ได้ย้ายพรรคไปแล้ว แต่ตนจะนำหนังสือร้องเรียนนี้ ไปให้กรรมธิการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็เป็นเรื่องของกรรมาธิการแต่ละคณะ ที่จะพิจารณาข้อเรียกร้องดังกล่าว โดยอาจจะมีการเรียกผู้เสียหายมาให้ปากคำเพิ่มเติม

นายนิยม กล่าวอีกว่า เหตุการณ์นี้ผ่านมา 1 เดือน แต่พฤติกรรมของคนในพรรคและกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล เลือกที่จะนิ่งเฉย ตนยังไม่เห็นความคืบหน้าจากพรรคก้าวไกล ทั้งที่อ้างตัวเองว่าเป็นคนรุ่นใหม่ พรรคการเมืองใหม่ สามารถตรวจสอบได้ คนมีอุดมการณ์อยู่ร่วมกัน ไม่ปกป้องพวกพ้องเหมือนนักการเมืองเก่า แต่สิ่งที่พูดมาทั้งหมดทุกวันนี้อยู่ในพรรคก้าวไกล อะไรที่พูดออกมาตนไม่เห็นภาพ พฤติกรรมของคุณมันหนักกว่าสิ่งที่คุณกล่าวหาพรรคการเมืองอื่น

เมื่อถามว่า การเรียกร้องครั้งนี้ ต้องการให้พรรคก้าวไกลตอบข้อสงสัยของประชาชนให้เกิดความชัดเจนใช่หรือไม่ นายนิยม กล่าวว่า แน่นอน คุณต้องชัดเจน เพราะที่ผ่านมาคุณกล่าวหาพรรคการเมืองอื่นมาตลอด “ขอเรียกว่าซุ้มการเมือง” ตนต้องการให้สภาผู้แทนราษฎรจัดการกับปัญหาดังกล่าว เพราะเรื่องนี้มีระเบียบข้าราชการหรือระเบียบการปกครอง หากคุณทำตามเรารับได้ ไม่ใช่นิ่งเฉย ไม่ทำอะไร และปล่อยเวลาให้หมดไป จะมาบอกว่าลาออกไปแล้วไม่เกี่ยวกับพรรคก้าวไกลไม่ได้ ทำแบบนี้เป็นการปัดสวะให้พ้นตัว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img