วันศุกร์, พฤษภาคม 3, 2024
หน้าแรกHighlight“เดียร์”ชี้“ปชป.”กำลังอยู่ในทางสองแพร่ง ยอมรับ“ไม่มั่นใจได้เสียงปลดล็อกชิงหน.”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“เดียร์”ชี้“ปชป.”กำลังอยู่ในทางสองแพร่ง ยอมรับ“ไม่มั่นใจได้เสียงปลดล็อกชิงหน.”

“มาดามเดียร์” ชี้ “ปชป.” อยู่ในทางสองแพร่ง ยอมรับไม่มั่นใจจะได้เสียง 3 ใน 4 เพื่อยกเว้นข้อบังคับให้ลงสมัครชิงหัวหน้าพรรคได้ แต่ขอเดินหน้าสู้ให้ถึงที่สุด ยันไม่ได้เป็นตัวแทน “อภิสิทธิ์” หรือตัวแทนใคร

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.66 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ กทม. น.ส.วทันยา บุนนาค หรือ “มาดามเดียร์” ประธานคณะทำงานนวตกรรมการเมือง กทม. ในฐานะผู้เสนอตัวสมัครชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9 ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ด้วยเสียงสั่นเครือและตาแดงว่า มาถึงจุดนี้ ตนคิดว่าเกินกว่าสิ่งที่จะคิดว่าแพ้หรือชนะ แต่การสู้ให้ถึงที่สุดและทำให้ดีที่สุด เพื่อให้จิดวิญญาณของพรรคกลับมาให้ได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็พร้อมยอมรับและไม่ค้างคาใจเรา รวมถึงไม่ค้างคาใจสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่เฝ้ารออยากจะเห็นอุดมการณ์ของพรรคที่ภาคภูมิใจมาตลอด 77 ปี และเป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชนศรัทธาในพรรคจะยังคงฟื้นกลับมาได้อีกครั้งหนึ่ง

น.ส.วทันยา กล่าวต่อว่า เมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) ตนไม่ได้พูดคุยกับผุ้ใหญ่ในพรรค ไม่ว่าจะเป็นนายชวน หลีกภัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค หรือนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรคและรักษาการหัวหน้าพรรค ส่วนที่มีข่าวว่า นายชวนจะเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์นั้น ตนไม่ทราบ แต่คิดว่าผู้ใหญ่ทุกคนล้วนมีเหตุผล ซึ่งไม่อาจไปก้าวล่วง และการที่ตนลงสมัครหัวหน้าพรรคครั้งนี้ ก็เป็นการตัดสินใจด้วยตัวเอง ไม่เกี่ยวกับว่าไปคุยกับผู้ใหญ่หรือสส.คนใด

เมื่อถามว่า หากไม่ได้รับชัยชนะ จะร่วมทีมกับผู้ชนะหรือไม่ หรือต้องดูคณะทำงานก่อน น.ส.วทันยา กล่าวว่า ไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ จนกว่าจะเห็นทิศทางที่ชัดเจนของพรรค ว่าวิถีแห่งอุดมการณ์พรรคประชาธิปัตย์ จะยังคงเดิมไม่เปลี่ยนไป

เมื่อถามว่า จะชูใครเป็นเลขาธิการพรรคให้ที่ประชุมรับทราบ น.ส.วทันยา กล่าวว่า ยืนยันเหมือนเดิมยังไม่มีในใจ เพราะได้ตัดสินใจตั้งแต่วันแรกแล้วว่า เพราะศรัทธาในวิถีแห่งอุดมการณ์ เพราะประชาธิปัตย์กำลังอยู่ในทางสองแพร่ง ว่าใช้จะพ่ายแพ้ต่อระบบอุปถัมภ์ หรือสามารถเรียกคืนจิตวิญญาณพรรคกลับมาได้ ตนเพียงแค่อยากขอลงมือทำในสิ่งที่เชื่อและฝัน ซึ่งเชื่อว่าประชาชนก็ฝันไม่ต่างจากตน คืออยากเห็นการเมืองที่ซื่อตรงและจริงใจ จึงไม่ได้เกิดจากเสียงที่ตนรวบรวมได้ อย่างไรก็ตาม ตนไม่มั่นใจจะได้รับเสียงถึง 3 ใน 4 เพื่อยกเว้นข้อบังคับให้สามารถลงสมัครหัวหน้าพรรคได้ แต่ตนก็เดินหน้าสู้ไปถึงจุดนั้นแล้ว และไม่ได้เป็นตัวแทนของนายอภิสิทธิ์และเป็นตัวแทนของใคร

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img