วันศุกร์, พฤษภาคม 3, 2024
หน้าแรกNEWS“หมอชลน่าน”ตอบ 2 กระทู้สว. เดินหน้าส่งเสริมมีบุตรเป็นวาระแห่งชาติ-รับ 30 บาทรักษาทุกที่มีปัญหา
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“หมอชลน่าน”ตอบ 2 กระทู้สว. เดินหน้าส่งเสริมมีบุตรเป็นวาระแห่งชาติ-รับ 30 บาทรักษาทุกที่มีปัญหา

“หมอชลน่าน” ตอบกระทู้ สว.เดินหน้านโยบายส่งเสริมการมีบุตรเป็นวาระแห่งชาติ ดูแลตั้งแต่ในท้องจนเติบโตอย่างมีคุณภาพ มั่นใจกำลังรัฐสามารถทำได้ หลังคาดการณ์ อีก 60 ปี คนไทยจะเหลือเพียง 33 ล้านคน รับบัตรใบเดียวรักษาทุกที่ 30 บาทมีปัญหา เร่งแก้ก่อนเปิดเฟสสองมี.ค.นี้ ตั้งเป้าปลายปีเปิดใช้บริการทั่วประเทศ

วันที่ 15 ม.ค.2567 เวลา 10.30 น.ที่รัฐสา ในการประชุมวุฒิสภา มีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ที่ประชุมได้พิจารณากระทู้ถามสด ของนพ.อำพล จินดาวัฒนะ สว. เรื่องนโยบายการส่งเสริมการมีบุตร ถาม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ถึงนโยบายเป้าหมาย แผนงาน ที่จะรองรับ รวมถึงปัญหาอุปสรรคและผลสัมฤทธิ์ เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปร้อยละ 20 อีกไม่ถึง 10 ปีข้างหน้า จะทำให้ประเทศเป็นสังคมสูงวัยสมบูรณ์แบบ ซึ่งสวนทางกับอัตราการเกิดของเด็กที่ลดลง

นพ.ชลน่าน ชี้แจงว่าในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภามีการพูดถึง นโยบาย ที่จะขับเคลื่อนเกี่ยวกับเรื่องโครงสร้างประชากร สังคมสูงอายุในอนาคตที่จะเป็นปัญหา มั่นใจว่ามีนโยบายที่จะตอบโจทย์ เป็นนโยบายวาระแห่งชาติที่จะผลักดันให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม รวมถึงกำหนดนโยบายส่งเสริมการมีบุตรอย่างมีคุณภาพเพื่อพัฒนาประชากรและทุนมนุษย์ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขนำมาปรับปรุงแก้ไขเป็นนโยบายขับเคลื่อนแผนพัฒนาประเทศในระยะยาว ได้มีการเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อพิจารณาแล้ว จากนั้นจะมีการประกาศเป็นวาระแห่งชาติและจะขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการส่งเสริมการมีบุตรอย่างมีคุณภาพระยะ 5 ปีระหว่างปี 25616-2570 ซึ่งกลไกการขับเคลื่อนจะมีคณะกรรมการอำนวยการส่งเสริมการมีบุตรอย่างมีคุณภาพเพื่อพัฒนาประชากรและทุนมนุษย์ กำกับติดตามแผนปฏิบัติการ ของแต่ละกระทรวง และจะบูรณาการการทำหน้าที่ร่วมกัน แล้วรายงานความคืบหน้าสู่ครม.

“ปัญหา อุปสรรค และความท้าทายนั้นยอมรับว่าเรื่องค่านิยมที่เปลี่ยนไป ครอบครัวหลากหลายมากขึ้น และการมีลูกไม่ได้เป็นเป้าหมายของชีวิต ดังนั้นจึงต้องเปลี่ยนทัศนคติ ค่านิยม ด้านการสร้างครอบครัวของคนรุ่นใหม่ และขับเคลื่อนมาตรการในร่างระเบียบวาระแห่งชาติ เพราะจากการคาดการณ์ อีก 60 ปี ประชากรไทยจะลดลงครึ่งหนึ่งเหลือเพียง 33 ล้านคน แบ่งเป็นวัย 0-14 ปี เหลือ 1 ล้านคน วัยทำงานเหลือ 14 ล้านคน วัยผูสูงอายุ เพิ่มเป็น 18 ล้านคน มั่นใจว่าเฉพาะกำลังของรัฐบาลที่มีอยู่ สามารถที่จะให้ประชาชนมีลูกและสมบูรณ์พร้อมตั้งแต่อยู่ในท้อง หลังเกิดและเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยมีคลินิกส่งเสริมการมีบุตรและการเกิด ivf (การปฏิสนธินอกร่างกาย) หรือเด็กหลอดแก้ว ปีละ 10 ราย”นพ.ชลน่าน กล่าว8

ต่อมาเวลา 11.00 น.นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สว.ได้ตั้งกระทู้ถาม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข เรื่องแก้ปัญหาบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ โดยนพ.ชลน่าน กล่าวยอมรับว่า ภายหลังจากที่เปิดโครงการนำร่อง 4 จังหวัด กระทรวงได้ตั้งวอร์รูมติดตามปัญหาและเฝ้าระวัง ทั้งในภัยสงครามไซเบอร์ ซึ่งก่อนเปิดโครงการที่ จ.ร้อยเอ็ด ยอมรับว่ามีการโจมตีทางไซเบอร์ แต่สามารถป้องกันได้ ซึ่งกระทรวงเน้นการสร้างความปลอดภัยและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ขณะเดียวกันด้วยการพัฒนาของระบบจะแก้ปัญหาการเข้ารับบริการทที่ซ้ำซ้อนได้ด้วย ปัญหาที่พบคือประชาชนยังไม่ยืนยันตัวตนในระบบ ทำให้ผู้ที่เข้ารับบริการต้องเสียเวลาทำประวัติก่อนเข้าไปรับการรักษา ดังนั้นในการเปิดเฟสต่อไปใน 8 จังหวัด ในช่วงเดือนมี.ค.67 จะเร่งแก้ปัญหาดังกล่าว และรณรงค์ให้ประชาชนยืนยันตัวตนให้แล้วเสร็จก่อนการเข้ารับบริการ โดยไม่ต้องรอให้ป่วย อย่างไรก็ดีรัฐบาลตั้งใจให้โครงการใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ครอบคลุมทั่วประเทศในปลายปี2567 นี้ โดยเฟส3 จะคิกออฟ เม.ย. – พ.ค. นี้ ใช้เขตบริการสุขภาพ 4 เขตบริการสุขภาพ คือ 8 จังหวัดภาคเหนือ ภาคกลางตอนกลาง ภาคอีสานใต้ และภาคใต้ตอนล่าง

“รัฐบาลจะขยายให้ครบทุกจังหวัดเพื่อทดสอบระบบเชื่อมโยงหากมีศักยภาพเชื่อมโยงจะสามารถเชื่อมโยงภาครัฐ และเอกชน ได้ ทั้งนี้ในส่วนของการพัฒนาระบบและเทคโนโลยี จะทำให้กำลังคนลดลง อย่างไรก็ดีการพัฒนาระบบต้องมมีต่อไป เพื่อให้ระบบเสถียร ไม่มีปัญหาต่อกาารให้บริการ และอนาคตพร้อมจะรองรับทุกสิทธิการรักษา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับประกันสังคม” รมว.สาธารณสุข กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img