“ทักษิณ” ขึ้นดอยสุเทพทำบุญสงกรานต์รอบ 18 ปี บอกปีหน้าหวังควงคู่ “ปู” ปิ๊กบ้านทำบุญเมืองไทย ชี้ น้องสาวมีแค่คดีเดียว ผมโดนยัดเยอะ ไม่หวั่นเสียงวิจารณ์ บอกทำอะไร ไม่มีคนเห็นด้วย 100%
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 เม.ย.67 ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตี เดินทางมาที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร โดยก่อนที่จะขึ้นกระเช้าลอยฟ้ามาที่พระธาตุ ได้แวะซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 140 ใบ โดยให้แม่ค้าหยิบแบบสุ่มให้ จากนั้นนายทักษิณขึ้นมาบนวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ เพื่อประกอบพิธี ไหว้พระธาตุและทำบุญ สรงน้ำพระเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์
ทั้งนี้ นายทักษิณได้พบปะสนทนาธรรมกับพระธรรมเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ โดยเจ้าอาวาสได้กล่าวกับนายทักษิณว่า “ขอให้ใจเย็นๆ นั่งพักผ่อนให้สบายๆ มาครั้งที่แล้วมีเวลาไม่นาน ครั้งนี้อยากให้นั่งพักนานๆ ซึ่งเงินที่นายทักษิณเคยถวายไว้ครั้งก่อน ได้เอาไปทำบุญบูรณะบริเวณวัดแล้ว หลังจากมีพายุเข้าช่วงหลังจากที่นายทักษิณกลับไป ถือว่าเงินทำบุญครั้งนั้น จะทำให้ครอบครัวของนายทักษิณมีความเจริญรุ่งเรือง”
จากนั้นนายทักษิณได้ถวายปัจจัยให้วัดอีกครั้ง และถวายปัจจัยเพื่อบูรณะพระวิหาร ซึ่งเจ้าอาวาสได้ให้พรกับนายทักษิณ ก่อนที่นายทักษิณจะลงมาผูกผ้าสามสีไม้ง่ามค้ำต้นโพธิ์ และตีฆ้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายทักษิณมาทำบุญที่วัดพระธาตุดอยสุเทพฯ มีประชาชนให้ความสนใจเข้ามาขอถ่ายรูป รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากนั้นนายทักษิณได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า วันนี้มีพรรคพวกชวนไปดูคอนเสิร์ต ตนก็จะไปดูว่า ชีวิตของคนเชียงใหม่กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างไร เวลามาเที่ยวสงกรานต์แล้วสนุกสนานแบบไหน ตนจะได้เข้าใจเขามากขึ้น ตนห่างประเทศไทยไปนาน ก็ขอไปทำความเข้าใจให้มากขึ้น ยืนยันว่าขณะนี้อาการป่วยของตนดีขึ้นมาก ได้กลับมาอยู่บ้านภาวะจิตใจก็ดี ความพร้อมในการออกกำลังให้ร่างกายฟื้นตัวก็มีมากขึ้น อยู่ที่โรงพยาบาลไม่มีจิตใจที่จะทำอะไร
ส่วนภาพที่ออกมามักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ นายทักษิณ กล่าวยืนยันว่า ไม่เป็นไร ป่วยก็อยากจะหาย หวังว่าคนที่วิจารณ์ตน เวลาเจ็บป่วยเขาก็คงอยากหายเหมือนตน หายแล้วก็ควรจะดีใจ อย่าไปซ้ำเติมเขา
นายทักษิณ ยังกล่าวถึงการได้กลับมาเล่นสงกรานต์ที่เชียงใหม่ในรอบหลายปีว่า 18 ปี ก็รู้สึกม่วนอกม่วนใจ๋ จิตใจสบาย สงบ เพราะกลับมาแล้วก็อยากสงบ อยากใช้ชีวิตเรียบง่าย การขอพรในวันนี้ เมื่อไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ผมก็สักการะด้วยความเคารพบูชา จะไม่ค่อยเรียกร้องอะไร เพราะเมื่อเราเกิดมาแล้ว พระเจ้าลิขิตไว้แล้ว ว่าจะมีอะไร ซึ่งวันนี้เป็นวันครอบครัวเมื่อได้กลับมาอยู่กับครอบครัวรู้สึกอบอุ่น เจอคนไทย ประเพณีวัฒนธรรมไทย อาหารไทย พี่น้องเพื่อนฝูง สื่อมวลชนคนไทย ก็มีความสุข ดีกว่าอยู่เมืองนอกเยอะ
เมื่อถามว่า ได้มาสงกรานต์ที่เชียงใหม่เช่นนี้ คิดถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ เพราะปกติในเทศกาลสงกรานต์จะอยู่ด้วยกัน นายทักษิณ กล่าวว่า “นายกฯปูอวยพรสงกรานต์ก่อนที่ผมจะเดินทางมาเชียงใหม่ ก็เลยบอก เดี๋ยวปีหน้า เรามาทำบุญด้วยกัน สงกรานต์ปีหน้า นายกฯปูคงได้มีโอกาสมาทำบุญ ส่วนเป็นข่าวดีใช่หรือไม่นั้น ไม่ทราบ แต่ตอนที่ผมจะเดินทางกลับ ก็มีความมุ่งมั่นว่าอยากกลับบ้าน แต่ไม่รู้ว่ากลับอย่างไร เมื่อไหร่ ซึ่งก็คิดแต่วันแรกที่ออกไปว่าจะต้องกลับให้ได้ ไม่รู้แต่จะอย่างไรก็ไม่รู้ เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ อยากกลับอยู่แล้ว”
เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มีบ่นบ้างหรือไม่ว่าเหงา นายทักษิณ กล่าวว่า ก็มีบ้างแหละ แต่ต่างคนต่างมีภารกิจเกี่ยวกับบ้านเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ห่วงบ้านเมืองเช่นเดียวกัน ก็ช่วยกันคิดช่วยกันทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่พวกเราเป็นรัฐบาล ก็ให้ความเห็น ส่วนจะกลับมาช่องทางไหนนั้นยังไม่ทราบ เอาความตั้งใจก่อน และในส่วนของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ค่อยซับซ้อนเหมือนของของตน ของตนเขายัดให้เยอะ ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีอันเดียว ส่วนน.ส.ยิ่งลักษณ์จะกลับมาภายในปีนี้หรือไม่ ก็ตั้งใจอย่างนั้น แต่ยังไม่รู้จะอย่างไร เดี๋ยวดูเหตุการณ์ก่อน และจะเป็นเดือนต.ค. ปี 67 ใช่หรือไม่นั้น ไม่รู้ แต่ตั้งใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากกลับมา 2 คน กังวลว่ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ทุกอย่างมีเหตุผล คนอยากวิจารณ์ เขาก็วิจารณ์ไป แต่เราต้องมีเหตุผลของเรา ตอบสังคมส่วนใหญ่ได้ สังคมส่วนน้อยก็มีบ้างเป็นธรรมดา ไม่มีใครพอใจ แม้กระทั่งบางคนอยู่บ้านเดียวกัน พ่อแม่ลูก บางทีลูกทำอะไรพ่อแม่อาจไม่พอใจ เป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่มีข้อยุติร่วมกันทั้งหมด
