“หมอวรงค์” นำ “คปท.-กองทัพธรรม” บุก ป.ป.ช. ยื่นเอาผิดคนช่วย “ทักษิณ” ไม่ต้องติดคุก ชี้ตามระเบียบให้พักโทษ มาใช้ชีวิตบั้นปลายกับครอบครัว ไม่ใช่ออกมาตะแล็ดแต๊ดแต๋ สร้างปัญหาให้ประเทศ
เมื่อวันที่ 22 เม.ย.67 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี นำทีม คปท.และกองทัพ เดินขบวนตั้งแต่ด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อมายื่นหนังสือให้ตรวจสอบกระบวนการช่วยเหลือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ป่วยทิพย์ ไม่ต้องติดคุก โดยได้นำรายงานการตรวจสอบข้อเท็จของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน มามอบเป็นหลักฐาน
นพ.วรงค์ กล่าวว่า การร้องเรียนครั้งนี้ ถือเป็นพยานหลักฐานทางการที่น่าเชื่อถือที่สุด เนื่องจากเคยไปร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน แม้จะไม่รับเรื่อง เพราะอ้างเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่ได้ทำการตรวจสอบและทำเป็นเอกสารลับส่งมาให้ตน โดยในเอกสาร ระบุว่า นายทักษิณไม่ได้ป่วยหนัก เพราะในรายงานการส่งตัวไปโรงพยาบาลตำรวจเขียนว่า “ส่งตัวไปเพื่อป้องกันความเสี่ยง” โดยไม่มีการรักษาตัวในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และหลังจากครบ 180 วัน เป็นการให้คะแนนที่ผิดปกติ หวังให้การช่วนเหลือ เนื่องจากเงื่อนไขการพักโทษจะต้องมีอายุ 70 ปี และป่วยจนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่ใช่กลับบ้านไปยกดัมเบล แล้วกลับไปเป็นปกติ ตนจึงเชื่อว่า เรื่องนี้จะไม่จบต่างจากโครงการรับจำนำข้าว
เมื่อถามว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม บอกว่า มาร้องดำเนินคดีกับตน เป็นเรื่องที่ผิด ควรจะไปร้องกับรัฐบาลชุดที่แล้ว นพ.วรงค์ กล่าวสวนกลับทันทีว่า พ.ต.อ.ทวีไม่ได้ไม่อ่านกฎหมาย ดูหน้าก็รู้แล้ว พ.ต.อ.ทวีไม่ค่อยรู้เรื่อง เราไม่เคยกล่าวหาว่า กฎหมายผิด แต่คุณไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎหมายออกในรัฐบาลชุดที่แล้วจริง แต่เรารู้ดีว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้ง เป็นการเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว
เมื่อถามว่า การที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับมาด้วย ยิ่งเป็นการซ้ำเติมเรื่องของวิกฤตกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ นพ.วรงค์ กล่าวว่า “การรอไปเรื่อยๆ คือการหาช่องทางทางกฎหมายมาช่วยเหลือ การพาคุณยิ่งลักษณ์กลับมาในโมเดลเดียวกันจะยิ่งหนักขึ้น”
นพ.วรงค์ ยังตั้งคำถามที่พ.ต.อ.ทวีพยายามเลี่ยงตอบคำถามเรื่องป่วยหนักของนายทักษิณ แต่กลับเบี่ยงเบนไปตอบเรื่องการพักโทษว่า ให้กลับไปอยู่กับครอบครัว เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง เป็นการตอบแบบผิดๆ กฎกระทรวงเขียนว่า ในการพักโทษกรณีพิเศษ ต้องเป็นลักษณะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แบบถาวร ไม่ใช่ยกดัมเบล 2 ครั้ง แล้วหายเป็นปกติ การพักโทษเขาต้องการให้กลับไปใช้ข่วงชีวิตสุดท้ายกับครอบครัว ก่อนตาย ไม่ใช่กลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัว ไม่ใช่ออกมาเดินตะแล็ดแต๊ดแต๋ หาเสียง สร้างความวุ่นวายให้กับประเทศ
ขณะเดียวกันวันนี้ คปท.และกองทัพธรรม ก็ได้ยื่นหนังสืออีกฉบับให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในการใช้รถประจำตำแหน่ง เดินทางเข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เนื่องจากการใช้รถประจำตำแหน่ง ไปพบนักโทษชาย เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ขอให้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป พร้อมมาตามความคืบหน้ากับคำร้องที่ยื่นให้ตรวจสอบคนช่วยเหลือนายทักษิณ ชินวัตร ที่ได้ยื่นไปก่อนหน้านี้