“ณัฏฐพล” เปิดใจลาออกจากส.ส. “ผมไม่เคยเสียใจในสิ่งที่ได้ทำไป” ย้ำได้ทำทุกอย่างสุดความสามารถ เต็มความสามารถในทุกบทบาทที่ได้รับ อาจจะถูกใจบ้าง-ไม่ถูกใจบ้าง และขอน้อมรับคำตัดสินตามกระบวนการยุติธรรม ขอเปิดโอกาสให้คนอื่นมาทำหน้าที่ ส่วนตัวเองจะใช้เวลาสู้คดีอย่างเต็มที่
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.64 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีตรมว.ศึกษาธิการ เปิดใจถึงการลาออกจากการเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ผ่านเฟซบุ๊ก Nataphol Teepsuwan – ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ระบุว่า…“หลังจากได้ใช้เวลาคิดและไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน ตอนนี้ผมได้ลาออกจากการเป็น “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากผลของคำตัดสินของศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 64 มีผลทำให้นอกจากจะพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีแล้ว ยังต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่การเป็นตัวแทนของประชาชนในสภาไปด้วย ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญคงจะมีคำวินิจฉัยมาในเร็ววันนี้ว่า จะพ้นหรือไม่พ้นสภาพความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร
ผมอยู่ในสถานะที่แตกต่างจากเพื่อนๆ เพราะบางคนไม่ได้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองหรือถูกตัดสิทธิ์ แต่เป็นตัวแทนประชาชนในระดับเขตและมีพื้นที่ที่ต้องดูแลชัดเจน สถานะของผมที่ไม่ได้มีข้อผูกมัดเหมือนคนอื่น ควรเปิดโอกาสให้ ส.ส.ท่านอื่นที่มีความรู้ ความสามารถ ได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชนเพื่อแก้ไขปัญหาในช่วงวิกฤตเช่นนี้ น่าจะเป็นผลดีที่สุด
สืบเนื่องจากคดี กปปส. ผมและภรรยาโดนตัดสิทธิ์ทางการเมืองทั้งคู่ คงต้องใช้เวลาดำเนินการเรื่องคดีความอย่างเต็มที่ ส่วนตัวผมเอง อย่างที่ได้เคยแจ้งไปตั้งแต่เมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งที่กระทรวงศึกษาฯ ไว้แล้วว่า ไม่ว่าจะอยู่ในหน้าที่ไหน ตำแหน่งใดๆ ก็จะยังคงทำหน้าที่คนไทยคนหนึ่งอย่างดีที่สุดครับ
ตอนนี้ได้มีโอกาสทำโปรเจคต์หลายๆ อย่างที่เคยหยุดเอาไว้ให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ซึ่งความตั้งใจก็เพื่อพัฒนาความสามารถของเด็กและเยาวชน หวังว่าจะยังได้รับแรงใจสนับสนุนจากทุกท่านเหมือนเช่นเคย ผมขอถือโอกาสนี้ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้กัน ไม่ว่าผมจะอยู่ในฐานะแกนนำ รัฐมนตรี นักโทษ หรืออะไรก็ตามแต่ ผมไม่เคยเสียใจในสิ่งที่ได้ทำไป เพราะผมได้ทำทุกอย่างสุดความสามารถ เต็มความสามารถในทุกบทบาทที่ได้รับ ในข้อมูลและตามสถานการณ์ ตามความเหมาะสม ณ เวลานั้น อาจจะถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้าง และก็ขอน้อมรับคำตัดสินตามกระบวนการยุติธรรม ขอขอบคุณเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ข้าราชการ เพื่อน ส.ส. หัวหน้าพรรค ทั้งพรรคเดียวกันและต่างพรรค รวมถึงผู้หลักผู้ใหญ่ทุกท่าน ที่ถึงแม้อาจมีแนวคิดทางการเมืองต่างกัน แต่ก็ยังมีมิตรภาพร่วมกันได้ ที่สำคัญขอบคุณคนไทยหัวใจรักชาติทุกคนครับ”
