“อดีตกุนซือบิ๊กป้อม” ออกโรงเตือน “ระวัง อย่าให้เป็นรัฐล้มเหลว” หลังเกิดความผิดพลาดในการรับมือวิกฤติโควิด แล้วเห็นปรากฏการณ์ “เตียงมีไม่พอ-อุปกรณ์รักษาขาดแคลน-เกิดสับสนวัคซีนมีพอหรือไม่พอ-การบริหารราชการระส่ำระสาย-คอรัปชั่นโกงกิน-หมอแตกแยกเสนอข้อมูลคนละทิศคนละทาง-ปชช.ลุกขึ้นขับไล่”
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.64 นายไพศาล พืชมงคล เลขาธิการสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) แสดงความเห็นเรื่อง “ระวัง อย่าให้เป็นรัฐล้มเหลว” มีเนื้อหาว่า…
1.ความผิดพลาดล้มเหลวในการรับมือกับโคบ้า ทำให้สถานการณ์โรคระบาด ขยายตัวลุกลามเข้าขั้นวิกฤต ขณะนี้ระบบสาธารณสุข กำลังไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้อีกแล้ว โรงพยาบาลต่างๆ เตียงเต็มหมด แม้กระทั่งเตียงสนาม
2.อุปกรณ์การรักษาพยาบาลขาดแคลนมากขึ้น ร้อนถึงพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ต้องระดมการช่วยเหลือเพิ่มขึ้น รถตรวจ รถแลปตรวจเชื้อก็ทรงพระราชทาน เครื่องช่วยหายใจก็ทรงพระราชทาน ชุดคุ้มครองความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์ก็ทรงพระราชทาน หยูกยาก็ทรงพระราชทาน อาหารการกินก็ทรงพระราชทาน โดยที่ งบประมาณจำนวนมาก ไม่รู้เอาไปใช้อะไรกัน และคนมีหน้าที่เกี่ยวข้อง ไม่มีผลงานปรากฏว่าทำอะไรนอกจากพูด พูด พูด
3.การบริหารราชการระส่ำระสาย แม้มีการรวบอำนาจตามกฎหมายฉุกเฉิน แต่ผู้มีอำนาจตามกระทรวงต่างๆ ก็ยังคงปฏิบัติงานและสั่งราชการอยู่เหมือนเดิม ไม่มีใครฟังใคร นายกรัฐมนตรีพูดอย่างหนึ่ง ผู้เกี่ยวข้องก็พูดกันไปคนละทาง จนเกิดความสับสนยากปฏิบัติ
4.เกิดความสับสนในเรื่องวัคซีน วัคซีนมีเพียงพอหรือไม่เท่าใด จะต้องฉีดกันอย่างไร หมอแตกแยกกันเป็นหลายพวก ทะเลาะเบาะแว้ง นำเสนอข้อเท็จจริงไปคนละเรื่องคนละทาง จนประชาชนแตกแยก สับสนและวิตกจริต
5.การคอรัปชั่นโกงบ้านกินเมือง คึกคักไม่เกรงฟ้าไม่กลัวดิน โกงได้โกงเอา โกงแล้วก็ลอยนวล ขนาดทั่วประเทศประจานก็ยังท้าทายไม่ยำเกรง ผู้มีอำนาจหน้าที่ก็เพิกเฉย ไม่รักษาประโยชน์แผ่นดิน ไม่ทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของชาติ ละเว้นการทำหน้าที่อย่างหน้าตาเฉย
6.ประชาชนหมดหวัง กำลังลุกขึ้นขับไล่รัฐบาล และขยายตัวไปทั่วทุกวงการ
จากสถานการณ์แบบนี้ไม่หยุดหรือแก้ไม่ได้ ก็ส่อว่าประเทศไทยจะเป็นรัฐล้มเหลว จะพากันฉิบหายหมด
นายไพศาล ยังโพสต์ด้วยว่า…ชัดขึ้นอีกรายการ!!! ทุกวงเงินที่อ้างช่วยประชาชน ในที่สุดเงินก็ไปอยู่ในมือทุนใหญ่ ตอนนี้ก็ชัดแล้วว่า การรวบอำนาจผูกขาดวัคซีน อ้างว่าเพื่อช่วยประชาชนนั้นเอาเข้าจริง เงินค่าวัคซีนที่สั่งซื้อถึง 1 ใน 3 แล้ว ก็ไปที่ทุนใหญ่เหมือนเดิม!!!
