“จาตุรนต์ ฉายแสง” เตือน “ประยุทธ์”เลิกคิดรักษาอำนาจอำนาจ ด้วยการอ้างสร้างความวุ่นวายที่เจ้าหน้าที่ก่อ ก่อนที่สังคมไทยจะแตกแยกมากไปกว่านี้
เมื่อวันที่ 15 ส.ค.นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้ โพสต์ข้อความระบุว่า คำเตือนถึงพลเอกประยุทธ์ เลิกคิดรักษาอำนาจด้วยการอ้างความวุ่นวายที่ฝ่าย จนท.ก่อ หยุดใช้ความรุนแรงต่อประชาชน
น่าเป็นห่วงที่ระยะหลังนี้ปรากฏชัดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ใครดูก็รู้ว่านอกจากเป็นการกระทำที่โหดร้ายไม่เป็นไปตามหลักการสากลแล้ว ยังมีเจตนายั่วยุให้เกิดความโกรธแค้นเพื่อให้เกิดการตอบโต้ยกระดับความรุนแรงให้มากขึ้น
หลายฝ่ายออกมาทักท้วงตักเตือนว่า การใช้ความรุนแรงต่อประชาชนเช่นนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมายและมีแต่จะทำให้ความขัดแย้งยิ่งมากขึ้นและเหตุการณ์อาจจะบานปลายออกไป แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่มีทีท่าจะลดราวาศอกลงเลย ตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากจะมองว่าเป็นการทำตามนโยบาย
แน่นอนว่า ถ้าเป็นเรื่องระดับนโยบายก็คงไม่ใช่นโยบายของ สตช. เท่านั้น แต่ต้องเป็นนโยบายของผู้ที่มีอำนาจเหนือ สตช. มากกว่า
พลเอกประยุทธ์ เข้าสู่อำนาจได้ด้วยการอาศัยสถานการณ์ความวุ่นวายเป็นข้ออ้างในการทำรัฐประหาร การอยู่ในอำนาจต่อมาหลายปี รวมทั้งการเป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้งก็ล้วนอาศัย ‘ความสงบ’ เป็นจุดขาย
เมื่อมีการประท้วงคัดค้านรัฐบาลพลเอกประยุทธ์มากขึ้น จึงเป็นไปได้ที่พลเอกประยุทธ์จะพยายามใช้จุดขายของตนเช่นเดิม
แต่การอยู่ภายใต้การปกครองของพลเอกประยุทธ์มากว่า 7 ปีนี้ ประเทศกำลังจมดิ่งสู่ห้วงแห่งหายนะ ประชาชนเดือดร้อนกันทั่วไปหมดเพราะความล้มเหลวในการบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพของพลเอกประยุทธ์ นั่นเอง
การจะอาศัยตรรกะเหตุผลว่า พลเอกประยุทธ์จำเป็นต้องบริหารประเทศต่อไป เพื่อไม่ให้บ้านเมืองวุ่นวาย คงจะไม่มีใครเชื่อฟังอีกต่อไปแล้ว เพราะพลเอกประยุทธ์ ยิ่งอยู่ในอำนาจนานเท่าใด ประเทศก็ยิ่งเสียหายมากและประชาชนก็ยิ่งเดือดร้อนมากเท่านั้น
และความรุนแรงวุ่นวายส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มาจากนักศึกษาประชาชน แต่เกิดจากการจงใจทำให้เกิดขึ้นโดยเจ้าหน้าที่รัฐเอง
พลเอกประยุทธ์ ต้องเลิกคิดอาศัยสถานการณ์ความวุ่นวายที่เจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นฝ่ายสร้างขึ้น มาเป็นข้ออ้างในการคงอยู่ในอำนาจ รีบสั่งการให้เจ้าหน้าที่หยุดใช้ความรุนแรงต่อประชาชนและต้องใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม ก่อนที่สังคมไทยจะแตกแยกและเสียหายจนเกินกว่าจะเยียวยาได้
