วันเสาร์, พฤษภาคม 4, 2024
หน้าแรกHighlightประชุมร่วมรัฐสภาวันที่สอง"ก.ก.-พปชร." เถียงกันเรื่องมารยาท
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ประชุมร่วมรัฐสภาวันที่สอง”ก.ก.-พปชร.” เถียงกันเรื่องมารยาท

ปะฉะดะ!! ประชุมร่วมรัฐสภาวันที่สองพิจารณาร่างกม.พรรคการเมือง “ก.ก.-พปชร.” ปะทะฝีปากเรื่องไร้มารยาท

วันที่ 25 ก.พ. 65 ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่… ) พ.ศ…. จำนวน 6 ฉบับ ต่อเป็นวันที่สอง โดยมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม

ทั้งนี้ก่อนเริ่มเข้าสู่วาระการประชุมนายธีรัจชัย พันธุมาศส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นหารือว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 ก.พ. กรณีที่นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายเปรียบเทียบร่างทั้ง 6 ร่าง ทำให้เกิดการประท้วงและมีวิวาทะกันว่าสามารถที่จะอภิปรายเปรียบเทียบร่างอื่นที่ไม่ใช่ร่างของพรรคตัวเองเสนอได้หรือไม่ ซึ่งตนได้ตรวจดูข้อบังคับข้อที่ 87 ของข้อบังคับการประชุมรัฐสภานั้น บัญญัติว่าการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญวาระที่ 1 ให้รัฐสภาพิจารณาและลงมติว่าจะรับหลักการหรือไม่ ข้อบังคับเขียนไว้กว้างมากว่าสามารถพิจารณาได้ทุกร่าง ไม่ใช่เฉพาะร่างที่เฉพาะฝ่ายตนเองเสนอเท่านั้น หรือว่าร่างที่เป็นร่างของกฎหมายเดิมที่จะเปลี่ยนแปลง ซึ่งประธานที่ประชุมจะมีแนวทางอย่างไรในการพิจารณา เพราะยังไม่เคยมีประเพณีใดหรือการอภิปรายครั้งใดห้ามไม่ให้อภิปรายร่างใดร่างหนึ่งเปรียบเทียบกัน

ด้านนายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวงว่า ตนยืนยันว่าเมื่อคืนประธานที่ประชุมทำหน้าที่ได้เหมาะสมแล้ว เพราะต้องควบคุมการประชุม และเมื่อคืนตนเห็นด้วยว่าสมาชิกรัฐสภาไม่ได้ทำผิดข้อบังคับการประชุมรัฐสภา แต่เป็นหน้าที่ประธานต้องควบคุมการประชุม เนื่องจากในมุมมองของพรรคร่วมรัฐบาล การนำร่างของพรรคร่วมรัฐบาลมาเปรียบเทียบกับร่างของพรรคก้าวไกลเพียงแค่สองร่าง ทั้งที่จริงๆแล้วเราพิจารณา 6 ร่าง ตนมองว่ามารยาททางการเมืองอาจจะดูไม่ดีสักเท่าไหร่ ตนยืนยันว่าหน้าที่ประธานต้องควบคุมการประชุม พยายามให้สมาชิกไม่ก้าวก่ายและให้เกียรติกัน เพราะนี่คือการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ซึ่งเรื่องมารยาทเป็นสิ่งสำคัญ

ทำให้นายธีรัจชัย ลุกขึ้นใช้สิทธิ์ประท้วงว่า มีการพาดพิงและเสียดสีพรรคก้าวไกล มีการพูดถึงเรื่องมารยาททางการเมืองและการไม่สมควรในการอภิปรายทางการเมือง การทำหน้าที่รัฐสภา มารยาทกับการทำประโยชน์เพื่อประชาชนอันไหนสำคัญกว่า ถามว่าเรื่องนี้เราทำตามข้อบังคับรัฐสภาข้อที่ 87 ถามว่าผิดตรงไหน เป็นการกล่าวหา เสียดสี ใส่ความ

ทั้งนี้นายพรเพชร ได้วินิจฉัยว่า การไปว่าไม่มีมารยาทเป็นคำพูดที่ไม่รุนแรงมาก เป็นการเปรียบเทียบเพื่อให้การประชุมรัฐสภาราบรื่น ไม่ถึงกับเป็นการกล่าวต่อว่ารุนแรง ส่วนที่นายพิจารณ์กล่าวถึงร่างของพรรคร่วมรัฐบาลก็มีสิทธิ์ที่จะพูดได้ แต่เมื่อไปพาดพิงอีกฝ่าย เขาก็ย่อมมีสิทธิ์โต้แย้งโต้เถียง ตนจึงขอหาทางออกว่าท่านไปโต้แย้งกันในชั้นกรรมาธิการไม่ดีกว่าหรือ ดังนั้นเพื่อให้การพิจารณาของรัฐสภาราบรื่น ถ้าไปวิจารณ์เขา เขาก็วิจารณ์ตอบ โต้เถียงกันไปมา อย่าใช้ถ้อยคำรุนแรงต่อว่ากันเลย

นายธีรัจชัย ยังลุกขึ้นโต้แย้งต่อว่า ตนยังเข้าใจคาดเคลื่อนกับประธานฯเรื่องการมีมารยาทเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ ถ้ามีใครมาต่อว่าประธานนฯว่าวินิจฉัยแบบนี้ไม่มีมารยาทบ้าง จะรู้สึกอย่างไร

ทำให้นายพรเพชรต้องขอร้องว่า ยุติแค่นี้เถอะ แต่นายธีรัจชัยยืนยันขอให้ถอนคำพูด ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้มีกฎหมายเข้ามา 6 ฉบับจะพูดถึงฉบับใดก็เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าพาดพิงบุคคลก็มีสิทธิ์โต้แย้ง ขอให้ประธานยึดหลักให้มั่น

ก่อนที่นายพรเพชรพยายามควบคุมการประชุมให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อไม่ให้บรรยากาศเสีย

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img