ฝ่ายความมั่นคงจับตามองการเมืองปีวัว ระบุ ความร่วมมือ ความสามัคคีต่างหาก คือข้อไขของชาติ ชี้ฝ่ายค้านยังคงเดินหน้าเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในการบริหารงานของรัฐบาล
เมื่อวันที่ 4 ม.ค. รายงานข่าวจากฝ่ายความมั่นคง ได้มองสถานการณ์การเมืองในปีหน้าว่า ฝ่ายความมั่นคงได้วิเคราะห์ถึงการดำเนินการของพรรคการเมือง โดยมองว่าในห้วงเวลาสถานการณ์การเมืองยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ทางพรรคเพื่อไทยยังคงตั้งข้อสังเกตด้วยมุมมองที่เป็นลบต่อสถานะทางเศรษฐกิจของประเทศในปีนื้ ที่รัฐบาลต้องเผชิญกับปัญหาสถานการณ์ COVID-19 ทั้งนี้ เพื่อต้องการให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นใน การบริหารงานของรัฐบาล และมีแนวโน้มว่าจะใช้ประเด็นดังกล่าวเป็นหัวข้อในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในการ เปิดประชุมสภาฯ
ทั้งนี้ ฝ่ายการเมืองที่มีความรู้ความเข้าใจในสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง ยังมั่นใจในเสถียรภาพทางการเมืองในสภาฯ และได้ประเมินผลการทํางานของรัฐบาลในรอบปีที่ผ่านมาว่า มีนโยบายและแนวทางในการแก้ไขปัญหาได้ดี ถึงแม้พรรคฝ่ายค้านและผู้ชุมนุมกลุ่มต่างๆ จะมีการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลทั้งในสภาและนอกสภา ก็จะไม่ส่งผลต่อการบริหารงานของรัฐบาลแต่อย่างใด
“แม้การเมืองภายในประเทศจะมีการกระเพื่อมอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ฝ่ายค้านเองก็ไม่มีพลัง ยังคงมีความแตกแยกภายในเกี่ยวกับการจัดการซึ่งไม่ลงตัวง่ายๆ เชื่อได้ว่ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะถูกยืดออกไปอีก เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ที่รุนแรงกว่า อย่างไรก็ตามผลกระทบอาจไม่มากไปกว่ารอบแรกมากนัก เนื่องจากประสบการณ์สะสมของคนในชาติเอง อีกทั้งคาดวัคซีนกำลังจะเข้ามาในไม่ช้า คาดภายใน ก.พ.64 คนไทยคนแรกจะได้รับวัคซีนแน่นอน ดังนั้น ฝ่ายความมั่นคง ยังเชื่อว่ารัฐบาล ยังจะคงสามารถรักษาสถานะไว้ได้ ขณะที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะล่าช้าออกไป โดยหากยังมีความเห็นที่แตกต่างกันมากในรัฐสภาเหมือนปีที่ผ่านมา ก็ไม่อาจคาดได้ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสำเร็จลงได้หรือไม่” แหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคง กล่าว
อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยการเลือกตั้งครั้งต่อไปน่าจะเกิดขึ้นในประมาณ 2 ปี ตามวาระตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน อำนาจจะกลับไปอยู่กับประชาชนคนไทยอีกครั้ง ใครชอบ ใครพอใจใคร พรรดใด ก็จะรู้ได้ว่าสุดท้ายแล้วประชาชนจะไว้วางใจพรรคใด เนื่องมาจากผลงานจากนี้เป็นต้นไปเป็นส่วนหลักอยู่ด้วย ฝ่ายความมั่นคง ย่อมอยากเห็นการเมืองที่สร้างสรรค์ ไม่ใช่การเมืองที่แตกแยกทะเลาะกันไม่จบสิ้น การต่อสู้จะนำไปสู่การต่อสู้ ไม่ใช่ความยุติธรรม ความร่วมมือ ความสามัคคีต่างหาก คือข้อไขของชาติ.
