วันเสาร์, พฤษภาคม 4, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTS“สินค้าเพื่อนบ้าน”ถล่มไทย!! ดิ้นหาทาง “ล้อมคอก”แค่ไหน??
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“สินค้าเพื่อนบ้าน”ถล่มไทย!! ดิ้นหาทาง “ล้อมคอก”แค่ไหน??

ทุกวันนี้…ปฎิเสธไม่ได้ว่า การช้อปปิ้งออนไลน์ ของบรรดานักช้อปคนไทย กำลังเป็นที่นิยมพุ่งสูงปรี๊ด จนแซงหน้าบรรดาร้านค้าออฟไลน์ต่างๆ ด้วยซ้ำ

ปี 2566 ที่ผ่านมานักช้อปไทย มีการซื้อของออนไลน์สูงเป็นประวัติการณ์ ด้วยมูลค่าถึง 700,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่สูงกว่ายอดขายของร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น กว่า 14,000 แห่งทั่วประเทศ ที่มียอดขายรวมๆ กันแล้วประมาณ 500,000 ล้านบาท

ขณะที่บริษัทที่ปรึกษายักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง “แมคคินซี่” ก็ประเมินว่า รายได้จากช่องทางอี-คอมเมิร์ซ ของไทยจะเติบโตมากถึงปีละ 25% ต่อไปอีกอย่างน้อย 3 ปี ซึ่งเท่ากับ 7 เท่าของจีดีพีไทยในปีนี้

ก็ไม่แปลก!! ในเมื่อโลกเปลี่ยนไป โลกไม่มีพรมแดนอีกต่อไป ทุกสาขาอาชีพกำลังถูกดิสรัปจากเทคโนโลยี ไม่เว้นแต่การซื้อการขาย โดยเฉพาะสินค้าที่มาจากต่างประเทศ

ทุกวันนี้ใครต้องการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ ก็ใช้เวลาไม่กี่วัน กดคลิ๊กแล้วก็จ่ายเงิน อีกไม่กี่วัน ก็ได้รับสินค้า แถมยังมีราคาถูก ดึงดูดให้ซื้อกันแทบทุกวัน แถมเมื่อถึงวัน “เมกาเซล” ที่มีทุกเดือน ยิ่งทำให้ “ออเดอร์” ถล่มทลาย!!

โดยเฉพาะสินค้าจากแดนมังกร!! ที่ราคาโดนใจ ถูกใจ นักช้อปซะเหลือเกิน หากไม่คิดอะไรมาก!! โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณภาพ ในเมื่อถูกเงิน คุณภาพพอไปได้ แรงดึงดูดก็มีสูง

ท่ามกลางความสนุกสนาน…กับการช้อปสินค้าราคาถูก แต่อีกฝ่าย…โดยเฉพาะผู้ประกอบการ ทั้งเอสเอ็มอี ทั้งรายเล็กรายย่อยของไทย กำลังจะสิ้นชีพ!!

เพราะ…ไม่สามารถแข่งขันในเรื่องของราคากับสินค้าจากเพื่อนบ้าน ที่ยกทัพเข้ามาขย่มตลาดสินค้าไทยในประเทศจนยับเยิน หลายเจ้าต้องยอมปิดตัวเอง ด้วยหมดแรงสู้

สาระสำคัญส่วนหนึ่ง!! มาจากการนำเข้าสินค้าที่สั่งซื้อทางออนไลน์ หากมีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท ก็จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าใดๆ

ขณะเดียวกันบรรดา มาร์เก็ตเพลส หรือ แพลตฟอร์มออนไลน์ ชื่อดังจากต่างประเทศ ที่นักช้อปชาวไทยชื่นชอบ ทั้งยักษ์ใหญ่สีส้ม สีม่วง ก็มีการนำเข้าสินค้ามาไว้ที่ฟรีเทรดโซน หรือเขตปลอดภาษี

เมื่อได้รับออเดอร์จากนักช้อป บริษัทแม่เจ้าของแพลตฟอร์ม ก็จะส่งออเดอร์มายังฟรีเทรดโซน เพื่อนำสินค้าออกและส่งให้นักช้อปโดยไม่ต้องเสียภาษี ทั้งที่การนำสินค้าออกจากฟรีเทรดโซน เพื่อนำมาขายในไทย ก็ต้องเสียภาษีนำเข้าด้วยเช่นกัน

ด้านแพลตฟอร์ม ที่เป็นมาร์เก็ตเพลส ยังไม่ต้องเสียภาษีอีกต่างหาก เพราะไม่ได้จดทะเบียนธุรกิจในไทย หันมาดูผู้ประกอบการไทยต้องเสียสารพัด!!!

ไม่ใช่เพียงเท่านี้โอกาสของสินค้าจากเพื่อนบ้าน ที่เข้ามาตีตลาดในไทย ยังได้รับโอกาสจากเขตการค้าเสรี หรือ “เอฟทีเอ” ที่ได้รับการยกเว้นภาษีทั้งขาเข้าและขาออก แล้วแต่ข้อตกลงของแต่ละเอฟทีเอ

แม้ปัญหาเอฟทีเอ ไทยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะเป็นไปตามข้อตกลง ก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการที่ต้องงัดเอาคุณภาพสินค้าที่มีศักยภาพออกมาแข่งขันให้ได้

แต่ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ภาคเอกชนต้องผจญความยากลำบากโดยลำพัง เพราะอำนาจรัฐยังมีอะไรอีกมากที่สามารถเข้ามาดูแลคุ้มครองผู้ประกอบการให้อยู่รอด

ทั้งเรื่องการทบทวนสิทธิต่างๆ โดยเฉพาะสิทธิพิเศษทางด้านภาษี ในทุกมุมทุกมิติ ที่ต้องคิดคำนวณแล้วเคาะออกมาให้เหมาะสมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน

หรือแม้แต่ในเรื่องของมาตรการกีดกันทางด้านการค้า ที่ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนในโลกต่างก็ใช้กันทั้งนั้น เช่นในกรณีของมาตรฐานสินค้า ที่ต้องนำออกมาใช้ให้ชัดเจน ให้ครอบคลุม เพื่อปกป้องผู้ประกอบการในประเทศ

เหนือสิ่งอื่นใด หากมีการนำมาตรการออกมาปกป้อง ดูแลผู้ประกอบการในประเทศแล้ว แต่ไม่มีการบังคับใช้อย่างจริงจัง อย่างถูกต้อง ก็เสียเวลาเปล่า!!

ดังนั้น บรรดาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องบังคับใช้กฎหมาย!! กฎระเบียบ!! ให้เข้มงวด ให้ถูกต้อง ให้รัดกุม เพราะถ้าแพ้เงินใต้โต๊ะ หรือเงินข้างทาง ผู้ประกออบการไทย ประเทศไทย ก็ไปไม่รอด

เอาเป็นว่า… ณ เวลานี้ ก็ต้องรอดูความพยายามของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะโต้โผหลัก อย่างกระทรวงการคลัง ที่ต้องชัดเจน!! ต้องรวดเร็ว!! ก่อนทุกอย่างสายเกินแก้.

……………

คอลัมน์ : EC Focus by Virgo

สนับสนุนคอลัมน์ โดย E@ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img