วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 2, 2024
หน้าแรกNEWS"ณัฐวุฒิ”ลั่นจะเปลี่ยนขั้วรบ.ได้พท.ต้องแลนด์สไลด์เท่านั้น ย้ำไม่จับมือ “พปชร.-รสทช” 
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ณัฐวุฒิ”ลั่นจะเปลี่ยนขั้วรบ.ได้พท.ต้องแลนด์สไลด์เท่านั้น ย้ำไม่จับมือ “พปชร.-รสทช” 

ณัฐวุฒิ”ลั่นจะเปลี่ยนขั้วรบ.ได้พท.ต้องแลนด์สไลด์เด็ดขาด ชี้เลือกกระจัดกระจายพากันแพ้ตั้งแต่ในเขต ย้ำไม่จับมือ “พปชร.-รสทช” 

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 66 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ต้องแลนด์สไลด์ ถ้าเปลี่ยนรัฐบาลไม่ได้ ก็ไม่มีหวังเรื่องการเปลี่ยนแปลงใด ๆ การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นจุดตัดสำคัญในประวัติศาสตร์ ว่ารัฐบาลสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ และพวก จะไปต่อหรือจะเกิดรัฐบาลของฝ่ายประชาธิปไตยเข้ามาแก้ปัญหาให้กับประชาชน พรรคเพื่อไทยเสนอเป้าหมายแลนด์สไลด์เพราะเชื่อว่านี่เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เกิดรัฐบาลประชาธิปไตยขึ้นมาจริงได้ ถ้าไม่มีพรรคไหนในฝ่ายประชาธิปไตยชนะเด็ดขาด พล.อ.ประยุทธ์กับพวกจะรวมส.ส.มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ บวกกับ 250 ส.ว. ตั้งนายกรัฐมนตรีขึ้นมาก่อนแน่นอน หลังจากนั้นใช้ความเป็นนายกฯ บวกกับผลประโยชน์ประเภท “กล้วย” และ “เก้าอี้รัฐมนตรี” พยายามที่จะดึงส.ส.จากพรรคอื่น ๆ เข้ามาเพิ่มเติม แผนการไม่ซับซ้อน เห็นกันชัด ๆ แต่เขาก็จะทำแบบนี้ 

นายณัฐวุฒิ ระบุว่า ดังนั้น เป้าหมายแลนด์สไลด์เกินครึ่งจึงหมายถึงชัยชนะเหนือกติกาขี้โกง ถ้าเพื่อไทยเกินครึ่งจะเกิดรัฐบาลของฝ่ายประชาธิปไตย และเชื่อว่าส.ว.จำนวนหนึ่งใน 250 คน ไม่กล้ายกมือสวนเจตนารมณ์ของประชาชน ถ้าต้องเป็นฝ่ายค้าน พรรคพล.อ.ประยุทธ์กับพล.อ.ประวิตร แตกแน่ ๆ สองคนคงจูงมือกันกลับบ้าน ส่วนจะมีคดีความอะไรตามไปให้รับผิดชอบหรือเปล่า โปรดติดตาม ขั้วพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันคงพยายามจะวิ่งเต้นเข้าร่วมรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งเพื่อไทยเขาประกาศชัดว่า พลังประชารัฐ, รวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นพรรคที่มีส่วนร่วมในการก่อรัฐประหารโดยตรง ไม่มีในแผนการทำทีม ไม่มีความคิดจะเอามาร่วมรัฐบาล 

นายณัฐวุฒิ ระบุต่อว่า แม้เวลานี้จะมีหลายพรรคการเมืองโดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลอย่าง “ประชาธิปัตย์” หรือ “ภูมิใจไทย” แม้กระทั่ง “พลังประชารัฐ” ประกาศว่าจะสนับสนุนให้พรรคการเมืองอันดับ 1 ตั้งรัฐบาลก่อน ใครจะเชื่อก็เชื่อ ผมไม่เชื่อ เพราะการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พรรคเหล่านี้ คนเหล่านี้ ที่ประกาศว่าจะไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนากรัฐมนตรี แต่ถึงที่สุดก็เป็นรัฐบาลกันจนเกือบครบ 4 ปี 

“แล้วถ้าฝ่ายประชาธิปไตยไม่ตัดสินใจเลือกไปในทางเดียวกัน ต่างคนต่างแบ่งคะแนนแยกย้ายกันไป เพราะเชื่อว่าถึงที่สุดก็จะรวมกันเป็นเสียงข้างมากในสภาผู้แทนตั้งรัฐบาลได้อยู่ดี มันจะไม่เป็นอย่างนั้นครับ ถ้าเลือกกระจัดกระจายมันจะพากันแพ้ตั้งแต่ในเขตเลือกตั้ง ไม่สามารถเดินเข้าสู่สภาได้ คะแนนของฝ่ายอนุรักษ์นิยมในแต่ละพื้นที่ก็ยังคงเกาะกลุ่มกันเหนียวแน่น อาจจะไม่มากกว่าฝ่ายประชาธิปไตย แต่ถ้าคะแนนฝ่ายประชาธิปไตยแบ่งแยก เป็นโอกาสของฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่จะสอดแทรกเข้ามาเป็นที่หนึ่งในเขตเลือกตั้งได้”นายณัฐวุฒิระบุ  

นายณัฐวุฒิ ระบุต่อว่า เรื่องนี้ไม่ได้โมเมพูด มีหลักฐานเชิงประจักษ์ในหลายเขตเลือกตั้งเมื่อปี 2562 แน่นอนว่าประเทศไทยต้องการความเปลี่ยนแปลงในหลายด้านทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม แต่หากเปลี่ยนแปลงรัฐบาลไม่ได้ การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ก็จะไม่มีทางเกิดขึ้น ดังนั้น เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงต้องนับหนึ่งที่มีรัฐบาลของฝ่ายประชาธิปไตย และจะเปลี่ยนรัฐบาลได้คือพรรคเพื่อไทยต้องชนะเด็ดขาดแลนด์สไลด์เข้าไปเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล การประกาศร่วมมือกับพรรคนั้น ไม่จับมือกับพรรคนี้เหมือนที่หลาย ๆ พรรคเขาพูดกัน ผมเชื่อว่าในส่วนของเพื่อไทยก็ชัดเจนในตัวเอง คือถ้าเพื่อไทยได้คะแนนเป็นอันดับ 1 จะมาเท่าไหร่ก็ตาม จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยต้องเป็นนายกรัฐมนตรี นโยบายของพรรคเพื่อไทยต้องเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล ภายใต้หลักการประชาธิปไตยที่ทุกพรรคต้องยึดถือร่วมกัน 

นายณัฐวุฒิ ระบุต่อว่า ส่วนการระบุชื่อพรรคให้ชัดเจนลงไปก็เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองทำได้ แต่นั้นเป็นคำตอบของคนที่ไม่ต้องทำ หมายความว่าทุกพรรคที่ประกาศพร้อมจับหรือไม่จับมือกับพรรคไหน ล้วนแล้วแต่ไม่ได้เป็นพรรคที่สังคมคาดหวังว่าจะต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลทั้งสิ้น ทุกคนทุกฝ่ายยอมรับตรงกันว่าที่ 1 เพื่อไทยแน่ ๆ และถ้าเพื่อไทยได้ที่ 1 แน่ ๆ เพื่อไทยก็จะต้องเป็นคนนับหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งหลักสำคัญก็คือต้องรอการตัดสินใจของประชาชน 

นายณัฐวุฒิ ระบุต่อไปว่า เป็นฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกันก็ไม่ได้หมายความว่าจะสบายใจที่จะทำงานร่วมกันได้ หากนโยบายไม่ตรงกัน เช่น เวลานี้มีบางพรรคการเมืองไม่เห็นด้วยกับกระเป๋าเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทของพรรคเพื่อไทย ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเพื่อไทยตั้งรัฐบาล นี่ต้องเป็นนโยบายหลัก เหล่านี้จึงเป็นเหตุผลที่พรรคเพื่อไทยประกาศไว้เป็นหลักการ ไม่จับมือกับพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐประหาร แต่จะทำงานกับพรรคการเมืองไหน ขอดูกันชัด ๆ คุยกันให้สบายใจตกผลึกร่วมกันเสียก่อน แล้วก็เดินหน้าทำงานด้วยกันได้ เป้าหมายสำคัญของเพื่อไทยคราวนี้จึงอยู่ที่ต้องตั้งรัฐบาลให้ได้ และต้องนำทุกนโยบายของพรรคไปแก้ปัญหาให้ประชาชนได้จริง 

“ในทัศนะส่วนตัวของผม โอกาสของเพื่อไทยก็ไม่ใช่ว่าจะเหลือเยอะนะครับ ถ้าแก้ปัญหาได้ แน่นอนว่าเดินต่อไปได้ยาว ๆ แต่ถ้าได้รับโอกาสแล้วแก้ปัญหาไม่ได้ เผลอ ๆ ครั้งต่อไปอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกแรก ๆ ในสนามเลือกตั้ง ดังนั้น ถึงที่สุดให้โอกาสพรรคเพื่อไทยอีกสักครั้งได้ครับ แต่ให้โอกาส ประยุทธ์กับพวก อีกครั้ง ไม่ได้อีกต่อไป มันจึงมีความจำเป็นเลือกให้ชัดตัดสินใจให้ขาด มันจึงมีความจำเป็นที่จะต้องให้พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์เพื่อเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย เพื่อไทยเขายืนยันว่าพรรคประยุทธ์ พรรคประวิตร ไม่เอาแน่ ๆ ส่วนพรรคไหนจะยืนยันว่าไม่เอาเพื่อไทยบ้างก็บอกมา เลือกตั้งเสร็จจะได้คุยกันเฉพาะพรรคที่สบายใจ”นายณัฐวุฒิระบุ  


- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img