วันจันทร์, พฤษภาคม 6, 2024
หน้าแรกNEWSแลนด์บริดจ์ไม่แย่งธุรกิจเพื่อนบ้าน นายกฯยันช่องแคบมะละกาแออัดขนส่งช้า
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

แลนด์บริดจ์ไม่แย่งธุรกิจเพื่อนบ้าน นายกฯยันช่องแคบมะละกาแออัดขนส่งช้า


นายกฯ’ ยันโครงการแลนด์บริดจ์ ไม่แย่งธุรกิจเพื่อนบ้าน เหตุ ช่องแคบมะละกาแออัดทำการขนส่งล่าช้าเผยอนาคตการค้าทางทะเลทั่วโลกจะสูงขึ้น

เมื่อเวลา 16.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นประเทศญี่ปุ่น ที่เร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง) วันที่ 16 ธ.ค.ที่บริเวณหน้าลานพระราชวังอิมพีเรียล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าโครงการแลนด์บริดจ์ ว่า เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้พูดคุยกับนักลงทุนญี่ปุ่นกว่า 500 รายในงานสัมมนาของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) จากนี้บีโอไอ กระทรวงคมนาคมจะต้องตามเรื่องดังกล่าวต่อกับนักลงทุน และในเรื่องนี้บริษัทในอาเซียนเอง เช่น จากประเทศอินโดนีเซียก็ให้ความสนใจ ซึ่งก่อนเดินทางมาญี่ปุ่นก็มี เอกชนกลุ่มหนึ่งเป็นกลุ่มใหญ่มาเจอตน โดยแสดงความสนใจอย่างมากที่จะร่วมลงทุนด้วย ซึ่งก็ต้องพูดคุยกัน เพราะผลประโยชน์ของภูมิภาคนี้ ขึ้นอยู่กับโครงการแลนด์บริดจ์ด้วยเช่นกัน

ส่วนการพูดคุยกับนักลงทุนญี่ปุ่นเกี่ยวกับเรื่องโครงการแลนด์บริดจ์ ในวันที่ 18 ธ.ค.นี้ เราจะนำเสนออะไร นายกฯ กล่าวว่า เราจะบอกความตั้งใจในการดำเนินโครงการ เพราะปริมาณสินค้าที่ ขนถ่ายผ่านช่องแคบมะละกา เช่น น้ำมัน ที่ทั่วโลกใช้ช่องทางดังกล่าวในการขนส่งถึง 60% ซึ่งช่องแคบมะละกามีความแน่นอาจเกิดอาจเกิดอุบัติเหตุได้ และทำให้มีความล่าช้าในการขนส่งต้นทุนก็อาจสูงขึ้น ฉะนั้นการที่เราสร้างโครงการแลนด์บริดจ์ ไม่ใช่การแย่งธุรกิจ เพราะกว่าจะเสร็จประมาณ 10 ปีปริมาณการค้าทางทะเลทั่วโลกก็จะสูงขึ้น ทั้งนี้ เพื่อนบ้านเราทั้งมาเลเซียและสิงคโปร์จะได้รับผลกระทบในเรื่องนี้ที่คาดว่ารายได้ตรงนี้จะหายไป เพราะผลสำรวจเบื้องต้นการค้าขายทางเรือจะสูงขึ้น แต่หากไม่มีจะเป็นปัญหา และช่องแคบมะละกาในปัจจุบันมีความหนาแน่น หากเราสร้างโครงการแลนด์บริดจ์ได้จะช่วยการขนส่งของทั้งโลก.

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img