“เดียร์ วทันยา”จี้รัฐบาลคุมค่าครองชีพช่วยประชาชน หลังกกพ.ประกาศขึ้นค่าไฟพุ่ง แนะผู้ผลิตไฟฟ้าฟ้ายอมหั่นกำไรลงมาก็จะช่วยประชาชนตัวเล็กๆได้อีกนับไม่ถ้วน
จากกรณีที่ นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 กกพ. มีมติให้ปรับค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในรอบเดือนมกราคม-เมษายน 2565 โดยให้เรียกเก็บที่ 1.39 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.78 บาทต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.63 จากงวดปัจจุบัน เป็นผลจากอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าลง การนำเข้าพลังงานไฟฟ้าจากต่างประเทศในส่วนของพลังน้ำลดลงตามฤดูกาล และการผลิตไฟฟ้าจากถ่านลิกไนต์ลดลงตามแผนการปลดโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ส่งผลให้สามารถเดินเครื่องโรงไฟฟ้าที่มีต้นทุนราคาถูกลดลงอย่างไรก็ตาม สำนักงาน กกพ.จะดำเนินการรับฟังความคิดเห็นค่าเอฟทีสำหรับการเรียกเก็บในรอบเดือนมกราคม-เมษายน 2565 ทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ.ตั้งแต่วันที่ 19-25 พฤศจิกายน 2564 ก่อนที่จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป
เมื่อวันที่ 22 พ.ย.น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ค่าไฟขึ้น ค่าครองชีพพุ่ง รัฐต้องเร่งช่วยคนไทย
เมื่อวันศุกร์ที่ 19 ที่ผ่านมา กกพ.มีมติให้ปรับค่า FT ขึ้นตั้งแต่ 1 มกราคมเป็นต้นไปจากปัจจุบันค่า FT อยู่ที่ -15.32 บาทเป็น 16.71 บาท เรียกว่าปรับขึ้นทีเดียวกว่า 210% และแนวโน้มยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามขั้นบันไดในปีหน้าด้วยเหตุผลว่าต้นทุนราคาเชื้อเพลิงที่ปรับสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
แต่หากเรามาเปิดดูงบการเงินของบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่สุด Top3 ของเมืองไทยก็จะพบว่าตัวเลขกำไรสุทธิของแต่ละบริษัท ณ ไตรมาส 3 ของปีนี้ต่างมีผลประกอบการที่ดีขึ้นสวนทางกับเงินในกระเป๋าของประชาชนในช่วงวิกฤตโควิด 19
นั่นยังไม่นับรวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นจากราคาสินค้าและสาธารณูปโภคที่บ่งชี้อนาคตของเงินในกระเป๋าของประชาชนว่าจะฝืดเคืองเพิ่มขึ้นเพราะค่าครองชีพที่มีแต่นับวันจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นทว่ารายได้กลับไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นตาม นั่นยังไม่นับรวมถึงคนที่ตกงานในช่วงโควิด19 และธุรกิจร้านอาหาร SME ที่ต้องปิดตัวไปในช่วงที่ผ่านมา
เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งดูแลควบคุมค่าครองชีพเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนที่แค่วิกฤตโควิด19 ทุกวันนี้ประชาชนก็ลำบากเหนื่อยยากเต็มที เพียงแค่เหล่าบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าของไทย (ทั้งๆที่หลายบริษัทก็ถือหุ้นโดยรัฐบาล) ยอมหั่นกำไรลงมาก็จะช่วยประชาชนตัวเล็กๆได้อีกนับไม่ถ้วน
