วันเสาร์, พฤษภาคม 4, 2024
หน้าแรกHighlightส่งออกเฮ! รับอานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ส่งออกเฮ! รับอานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า

“รุ่ง” มองเงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 37.00-37.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หลังเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อไม่หยุด เผยสถิติตั้งแต่ 1 ก.ย.-23 ก.ย.ทุกสกุลเงินในภูมิภาคอ่อนค่า ขณะที่ 4 สกุลเงินทำสถิติใหม่

น.ส.รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 37.00-37.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยแนวโน้มยังคงอ่อนค่าขณะที่ตลาดทบทวนคาดการณ์นโยบายธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดสู่การขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับสูงขึ้นและตรึงไว้ที่ราว 4.6% ในปี 66 ส่งผลให้บอนด์ยิลด์สหรัฐฯพุ่งขึ้นและหนุนค่าเงินดอลลาร์

นอกจากนี้ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 28 ก.ย. คาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% จากระดับ 0.75% โดยไม่ปิดโอกาสที่อาจจะเห็นการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.5% น่าจะกังวลเงินเฟ้อที่มาพร้อมกับการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ พร้อมทั้งติดตาม จีดีพี ไตรมาส 2 และยอดขายบ้านใหม่เดือน ส.ค. ของสหรัฐฯ

สำหรับการเคลื่อนไหวของสกุลเงินในภูมิภาคตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.-23 ก.ย. พบว่า วอน-เกาหลีใต้ อ่อนมากสุด 5.12% รองลงมาคือดอลลาร์-ไต้หวัน 3.92%, เปโซ-ฟิลิปปินส์ 3.78%, หยวน-จีน 2.97%, บาท-ไทย 2.51%, รูปี-อินเดีย 2.15%, ริงกิต-มาเลเซีย 2.06%, ดอลลาร์-สิงคโปร์ 1.66%, รูเปียห์-อินโดนีเซีย 1.25%, ดอง-เวียดนาม 1.08%

อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้ บาทอ่อนสุดรอบ 16 ปี ขณะที่หยวนจีนอ่อนในรอบ 2 ปี ส่วนเปโซ-ฟิลิปปินส์ และรูปี-อินเดีย แตะระดับอ่อนค่าสุดเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางการแข็งค่าของดอลลาร์ในตลาดโลก ทั้งนี้ผู้ประกอบการส่งออกและนำเข้าควรป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

“เดือนนี้ทุกสกุลเงินในภูมิภาคล้วนอ่อนค่าลงทั้งหมด เงินบาทถือว่าเคลื่อนไหวสอดคล้องกับตลาดโลก สาเหตุเกิดจากนักลงทุนเข้าพักเงินในดอลลาร์จากทิศทางนโยบายเฟดและความตึงเครียดรอบใหม่ระหว่างรัสเซียกับยูเครน”น.ส.รุ่ง กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img