วันอาทิตย์, พฤษภาคม 5, 2024
หน้าแรกHighlightจ่อลดค่าไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมก่อนสิ้นปีใหม่
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

จ่อลดค่าไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมก่อนสิ้นปีใหม่

“กกพ.” ส่งสัญญาณลดค่าไฟภาคอุตสาหกรรม ปรับลดลงต่ำกว่า 5.69 บาทต่อหน่วย ” ก่อนสิ้นปีนี้ ถ้ากฟผ.” -“ปตท.” มีหนังสือขอเปลี่ยนแปลงตัวเลขการบริหารจัดการหนี้ใหม่ภายในเดือนธ.ค.นี้

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า ค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(Ft) งวดม.ค.-เม.ย. 66 ที่ประกาศล่าสุดในส่วนของค่าไฟบ้านประเภทที่อยู่อาศัยคงเดิมที่อัตรา93.43 สตางค์ต่อหน่วยหรือเฉลี่ยรวม 4.72 บาทต่อหน่วย

แต่ปรับขึ้นส่วนของไฟฟ้าประเภทอื่น อาทิ ธุรกิจ อุตสาหกรรมบริการฯลฯ ปรับเป็น 190.44 สตางค์ต่อหน่วยหรือเฉลี่ยค่าไฟรวมเป็น 5.69 บาทต่อหน่วยโดยกรณีที่เอกชนต้องการให้ลดค่าไฟลงมาบางส่วนลงมานั้นก็ขึ้นอยู่กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)และบมจ.ปตท.จะทำหนังสือยืนยันเปลี่ยนแปลงตัวเลขการทบทวนแผนบริหารหนี้กฟผ.และการคำนวณประมาณการราคาก๊าซธรรมชาติของผู้ผลิตไฟจากภาคเอกชนใหม่

“หากกฟผ.และปตท.ทำหนังสือเปลี่ยนแปลงตัวเลขต้นทุนหนี้และค่าก๊าซฯใหม่ กล่าวมายังสำนักงานกกพ.ภายในสิ้นเดือนธ.ค.นี้โอกาสที่ค่าไฟงวดม.ค.-เม.ย.66 ของภาคอุตสาหกรรมก็จะปรับลดลงได้แต่ตัวเลขเท่าใดก็ต้องมาพิจารณา”

ทั้งนี้ ค่าFt งวดม.ค.-เม.ย.66 ได้นำภาระการเงินและหนี้สินสะสมของกฟผ.มาคำนวณอยู่ที่เฉลี่ย 0.33 บาทต่อหน่วยหรือคิดเป็นเงิน 2 หมื่นล้านบาทต่องวดจากยอดหนี้ทั้งหมด ณ เดือนส.ค. 66 ที่ 1.2 แสนล้านบาท โดยทยอยจ่ายคืนภายใน 2 ปี ซึ่งเอกชนได้เสนอให้ชะลอการชำระคืนหนี้ กฟผ.ดังกล่าวออกไปก่อน ดังนั้น หากรัฐบาลมีแนวทางช่วยเหลือกฟผ.ให้เลื่อนการนำภาระหนี้มาคำนวณค่าไฟในงวดดังกล่าวได้ก็จะส่งผลให้ค่าFt อย่างน้อยลดลง 0.33 บาทต่อหน่วยได้

สำหรับกลุ่มเปราะบางผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือนยังคงต้องรอความชัดเจนแนวทางช่วยเหลือจากภาครัฐหลังจากที่มติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)เมื่อ 25 พ.ย.65 ขอความร่วมมือจากบมจ.ปตท.ให้พิจารณาจัดสรรรายได้จากการดำเนินธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ 1,500 ล้านบาทต่อเดือนเป็นระยะเวลา 4 เดือน(ม.ค.-เม.ย.66) หรือวงเงินรวม 6,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามคงต้องรอดูว่า ปตท. จะอนุมัติจัดสรรงบดังกล่าวเข้ามาช่วยเหลือหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้น กกพ. ได้คำนวณการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางตามแนวทางเดิมที่เคยช่วยเหลือส่วนลดค่าไฟเป็นแบบขั้นบันไดที่ คาดว่าจะใช้เงินในงวดม.ค.-เม.ย.65 ที่ 8,700 ล้านบาทซึ่งยังคงต้องรองบประมาณจากรัฐอีก 1,700 ล้านบาท ซึ่งหากการช่วยเหลือส่วนนี้มีความชัดเจนภายในธ.ค.นี้ก็จะปรับลดค่าไฟส่วนนี้ได้ทันที

สำหรับแนวโน้มค่า Ft งวดพ.ค.-ส.ค.66 ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการก๊าซฯในอ่าวไทยว่าจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้มากน้อยเพียงใดเพื่อลดการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) ที่มีราคาแพง ปัจจุบันอยู่ที่ 33 ล้านเหรียญต่อบีทียู

ขณะเดียวกันยังต้องขึ้นอยู่กับการจัดหาดีเซลป้อนสำหรับการผลิตไฟฟ้าที่จะมาทดแทนLNG มากน้อยเพียงใด รวมไปถึงนโยบายภาครัฐว่าจะจัดสรรงบประมาณหรือแนวทางใดๆ ในการช่วยเหลือเพิ่มเติมจากงวดนี้หรือไม่หากไม่มีมาตรการใดๆค่าไฟฟ้าก็จะประกาศเป็นอัตราเดียว

“ค่าไฟเอกชนที่แพงกว่าบ้านอยู่อาศัย กกพ.ยืนยันทำตามมติกพช.ที่ให้จัดสรรก๊าซจากอ่าวไทยหหลังโรงแยกก๊าซเพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยเป็นลำดับแรกโดยไม่เพิ่มค่าไฟจากเดิม 4.72 บาทต่อหน่วยจึงทำให้ราคาก๊าซฯส่วนนี้ลดเหลือ 238 บาทต่อล้านบีทียูจากราคาคำนวณใหม่ 493 บาทต่อหน่วยแต่ราคาก๊าซฯในภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ 542 บาทต่อล้านบีทียูหรือเพิ่มขึ้น 49 บาทต่อล้านบีทียู “นายคมกฤชกล่าว

สำหรับความกังวลของภาคเอกชนที่มองว่าค่าไฟในไทยแพง เทียบกับประเทศคู่แข่ง เช่น เวียดนาม จะส่งผลกระทบต่อความสามารถการแข่งขันระหว่างประเทศหรือไม่นั้น มองว่าขึ้นอยู่กับเงื่อนไขแต่ละประเทศที่แตกต่างกัน กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าก็แตกต่างกัน ซึ่งตอนนี้เวียดนามก็แบกรับส่วนต่างของต้นทุนค่าไฟแบบเพิ่มขึ้นแล้วเช่นกัน

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img