วันอาทิตย์, พฤษภาคม 5, 2024
หน้าแรกNEWS“ทัวร์ศูนย์เหรียญ-ทัวร์อั้งยี่”ฟื้น ป่วน“ตลาดจีน”เที่ยวไทย
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ทัวร์ศูนย์เหรียญ-ทัวร์อั้งยี่”ฟื้น ป่วน“ตลาดจีน”เที่ยวไทย

“แอตต้า” จี้รัฐแก้ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ-ทัวร์อั้งยี่ หลังพบข้อมูลเริ่มกลับมาระบาดในไทยอีกครั้ง เผยไตรมาส 1/66 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทย 5 แสนคน คาดทั้งปี 8 ล้านคน “พิพัฒน์” ถกรัฐบาลจีนคุมเข้มนักท่องเที่ยวคุณภาพร่วมกัน

นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการบริษัททัวร์เริ่มพบสัญญาณการตั้งราคาขายแพ็กเกจทัวร์ในราคาต่ำกว่าทุนหรือทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยมีสมาชิกสมาคมพูดถึงประเด็นทัวร์ศูนย์เหรียญกันบ้างแล้ว รวมถึง ทัวร์อั้งยี่ (ทัวร์ที่ทำกันเฉพาะกลุ่มชาวจีนแบบผูกขาด) แต่เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ประกอบการได้รับผลกระทบโดยตรง ส่วนหนึ่งเพราะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมากับทัวร์ยังมีจำนวนน้อย

ทั้งนี้เห็นว่าภาครัฐต้องแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นระบบ เข้าใจโครงสร้างการออกแบบแพ็กเกจทัวร์ศูนย์เหรียญ พร้อมสื่อสารทำความเข้าใจไปยังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการไทย และอยากให้นักท่องเที่ยวเข้าใจว่าทัวร์ที่ดี ราคาไม่ถูก เมื่อบริษัททัวร์พาไปทานอาหารดีๆ ราคาทัวร์ก็ย่อมสูงขึ้น ปัจจุบันบริษัททัวร์ในประเทศจีนหลายแห่งยังไม่กลับมาเปิดกิจการ หรือที่กลับมาแล้วก็ไม่สามารถจัดหาตั๋วเครื่องบิน เพื่อจัดทำแพ็กเกจทัวร์ได้ เพราะบริษัททัวร์รายใหญ่ของจีนได้เหมาตั๋วเครื่องบินไปก่อนหน้าแล้ว

สำหรับสถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยในไตรมาสแรกปีนี้  พบว่ามีนักท่องเที่ยวจีน 5 แสนคน จากภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยกว่า 6 ล้านคน มั่นใจว่าในไตรมาส 2 จะมีนักท่องเที่ยวจีนถึง 1 ล้านคน จากปัจจัยบวกการเพิ่มเที่ยวบินประจำและเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) โดยส่วนใหญ่กว่า 60% เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) อย่างไรก็ตาม ตลาดจีนเที่ยวไทย ซึ่งเคยครองบัลลังก์อันดับ 1 สร้างรายได้กว่า 5.3 แสนล้านบาท จากฐานนักท่องเที่ยวจีน 11 ล้านคนเมื่อปี 2562 ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ตลาดนักท่องเที่ยวจีนถือเป็นพระเอกของภาคท่องเที่ยวไทยในปีนี้ คาดมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยมากเป็นอันดับ 1 จำนวนไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน และมีแนวโน้มปิดที่ 7-8 ล้านคน ขึ้นอยู่กับปริมาณเที่ยวบินในช่วงตารางบินฤดูหนาว 2566/2567 รองลงมาคือตลาดมาเลเซีย วางเป้าไว้ที่ 4 ล้านคน อินเดีย 2 ล้านคน ส่วนรัสเซียและเกาหลีใต้ คาดมีไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน

สำหรับสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-29 มี.ค.2566 รวม 6,276,240 คน แบ่งเป็น เดือน ม.ค. 2,144,948 คน เดือน ก.พ. 2,061,419 คน วันที่ 1-29 มี.ค. 2,069,873 คน เฉพาะเดือน มี.ค. กระแสการเดินทางของตลาดจีนเริ่มฟื้นตัวดี มีจำนวน 250,345 คน มากเป็นอันดับ 2 รองจากตลาดมาเลเซียซึ่งมี 296,361 คน ส่วนตลาดอื่นๆ รองลงมาคือ รัสเซีย 167,546 คน อินเดีย 110,298 คน และเกาหลีใต้ 108,361 คน

“หากภาคท่องเที่ยวไทยยังรักษาโมเมนตัมการฟื้นตัวที่ดีต่อเนื่อง เฉลี่ยมีชาวต่างชาติเที่ยวไทยเดือนละไม่น้อยกว่า 2 ล้านคน ตลอดทั้งปีนี้ก็น่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมไม่น้อยกว่า 24-25 ล้านคน ตามเป้าหมายของ ททท.ที่ตั้งไว้ 25-30 ล้านคน สร้างรายได้ 1.5 ล้านล้านบาท และเมื่อรวมกับตลาดในประเทศที่คาดการณ์ว่ามีนักท่องเที่ยวไทย 117-135 ล้านคน-ครั้ง ทำรายได้ 8.8 แสนล้านบาท คิดเป็นรายได้รวมทั้งตลาดในและต่างประเทศ 2.38 ล้านล้านบาท ฟื้นตัว 80% เมื่อเทียบกับรายได้รวม 3 ล้านล้านบาทเมื่อปี 2562”

อย่างไรก็ตาม ททท.ยังไม่ได้รับรายงานปัญหาเรื่องทัวร์ศูนย์เหรียญในประเทศไทย ซึ่งมีลักษณะกึ่งบังคับนักท่องเที่ยวไปร้านค้าที่กำหนด หากไม่ซื้อสินค้า ก็จะไม่ให้นักท่องเที่ยวเช็กอินโรงแรมบ้าง หรือไม่ให้ขึ้นรถบัสนำเที่ยวบ้าง สร้างความเสียหายแก่ภาคท่องเที่ยวไทย

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ได้หารือกับทางการจีน เกี่ยวกับการสร้างกลไกรับนักท่องเที่ยวคุณภาพร่วมกัน โดยล่าสุดเราได้รับแจ้งจากทางการจีนว่า ถ้าบริษัททัวร์ใดจะส่งนักท่องเที่ยวจีนออกไปเที่ยวต่างประเทศ ต้องได้รับอนุญาตจากทางการจีนก่อน เพราะฉะนั้นก็เป็นการคุมต้นทาง ส่วนเราเองก็ต้องคุมปลายทางเหมือนกัน

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img