วันเสาร์, พฤษภาคม 4, 2024
หน้าแรกHighlightนักวิชาการชี้นโยบายเงินดิจิทัลหมื่นบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.5 ล้านล้านบาท!!
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

นักวิชาการชี้นโยบายเงินดิจิทัลหมื่นบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.5 ล้านล้านบาท!!

นักวิชาการระบุนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ใช้งบ 5 แสนล้านกระตุ้นเศรษฐกิจสูงถึง 1.5 ล้านล้าน ดันจีดีพีไตรมาส 4 ฟื้นตัวยาว คาดจีดีพีปี67โต 5-7% แนะรัฐบาลใหม่เร่งโรดโชว์ต่างประเทศดึงความเชื่อมั่นกลับมา

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงกรณีที่รัฐบาลใหม่มีนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ซึ่งเป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วนของพรรคเพื่อไทย โดยทางพรรคได้ใช้นโยบายเงินดิจิทัลสำหรับหาเสียงในช่วงก่อนเลือกตั้งหวังกระจายรายได้สู่ชุมชนและกระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจว่า  เม็ดเงินที่จะใช้ประมาณ 5 แสนล้านบาททำได้แน่นอน และสามารถหมุนเวียนเศรษฐกิจ 2-3 รอบ คิดเป็นวงเงิน 1-1.5 ล้านล้านบาท โดยรัฐอาจออกแบบการใช้แบ่งเป็นสัดส่วนละ 3,000 กว่าบาท ทั้งนี้เพื่อกระจายให้เกิดการ กระตุ้นเศรษฐกิจ และกำหนดเงื่อนไขการซื้อสินค้าไทยให้ชัดเจน เพื่อให้เม็ดเงินกระจายในประเทศไทยจะทำให้เงินหมุนหลายรอบ หากไม่กำหนดก็เสี่ยงจะรั่วไหลออกไปกับสินค้าต่างประเทศได้

“นโยบายเงินดิจิตอลจะต้องใช้เงิน 5 แสนล้าน แต่เลี่ยงไม่ได้เป็นนโยบายที่ออกจากนายกรัฐมนตรีเอง ขณะนี้สังคมกำลังให้ความสำคัญกับเรื่องของการพูดว่าใครพูดอะไรแล้วต้องทำ ซึ่งเชื่อว่านโยบายนี้สามารถทำได้ และมีเงินเพียงพอ เพราะใช้โครงสร้าง งบประมาณ 3 ล้านล้านบาทและใช้การขาดดุลงบประมาณ มาช่วยเสริม แต่อาจจะต้องชะลอ โครงการบางโครงการออกไปได้”นายธนวรรธน์ กล่าว

ส่วนเรื่องหนี้สาธารณะนั้นมองว่าไม่น่าจะกระทบ เพราะสำนักงบประมาณมีการวางกรอบการขาดดุลไว้ไม่เกิน 4% ซึ่งจากสถานะทางการเงินตอนนี้อาจจะขาดดุลงบ เพิ่มได้อีกเล็กน้อย ไม่สูงเกินไปโดยขณะนี้เพดานหนี้สาธารณะ อยู่ที่ 60% แต่สามารถ ขยายได้ 70% ดังนั้นไม่ต้องกู้เพิ่ม อย่างไรก็ตาม อาจจะมีการพิจารณาเรื่องการใช้ภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) 7% ซึ่งส่วน นี้ไมาเพียงจะทำให้ได้เงินเพิ่ม 30,000-35,000 ล้านบาท แต่ยังจะได้ภาษีบุคคลและนิติบุคคลเพิ่มในปีถัดไป

สำหรับแนวโน้มจีดีพี ปี 2567 จะสามารถ ขยายตัว 5-7% เพราะงบประมาณจะเริ่มใช้ได้ในเดือน เม.ย และยังมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระยะแรกตั้งแต่ต้นปี 2567 จากนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล  ส่วนภาคการส่งออก ปีหน้า จะขยายตัวได้ 3-5% จากปี 2566 ที่คาดว่าจะติดลบ 2-3%  จากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยหลายประเทศ ทั้งสหรัฐ และในสหภาพยุโรป และเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวช้า ซึ่งจะกระทบการส่งออกปีนี้ แต่ปีหน้าจะดีขึ้น

“หลังจากได้รัฐบาลใหม่การเมืองนิ่ง การลงทุนกลับมา และหากรัฐบาลใหม่โรดโชว์ โปรโมทท่องเที่ยวจะช่วยเสริม ซึ่งจะเชื่อมโยงทำให้การบริโภคและการใช้เงินลงทุนดีขึ้น”นายธนวรรธน์ ระบุ

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img